ถกแก้ปัญหารุกและตัดไม้ทำลายป่า มีคดีดัง“หุบเขาไฮโซ”ด้วย

เชียงใหม่เรียกถกหน่วยงานเกี่ยวข้องในการแก้ปัญหารุกและตัดไม้ทำลายป่า มีคดีดังของ “หุบเขาไฮโซ”ด้วย พร้อมเดินหน้าฟื้นฟูพื้นที่ทวงคืนพลิกฟื้นผืนป่าตามนโยบายรัฐบาล
เชียงใหม่ 26 ก.ย.-ที่ห้องประชุมชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เป็นประธานประชุมคณะอนุกรรมการป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่า จ.เชียงใหม่(คปป.จ.ชม.) ครั้งที่ 5/2560 โดยมีอนุกรรมการจากหน่วยงานต่างๆเข้าร่วมประชุมโดยพร้อมกัน ทั้งนี้เพื่อติดตามผลการปฏิบัติงานในแต่ละส่วนที่เกี่ยวข้องกับกรณีการบุกรุก สถิติคดีและสถานการณ์ปัญหาการบุกรุกและลักลอบตัดไม้ทำลายป่าช่วงเดือนสิงหาคมถึงกันยายน 2560 ในเขตป่าสงวนแห่งชาติและป่าอนุรักษ์ เขตห้ามล่าสัตว์ รวมทั้งคืบหน้าการจัดการพื้นที่ป่าอนุรักษ์และการฟื้นฟูป่าต้นน้ำเสื่อมสภาพ
ในการนี้ที่ประชุมได้รับทราบความคืบหน้าในคดีที่เกิดขึ้นคือ บ้านพักตากอากาศ/รีสอร์ทที่อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ การตรวจสอบพื้นที่อำเภอแม่ออน กรณีนำ สค.1 มาแสดงของธุรกิจท่องเที่ยวผจญภัยราย Flight of the Gibbon คืบหน้าปัญหาบุกรุกที่ดินอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ป่าแม่เหียะใน คืบหน้าการแก้ไขบุกรุกป่าบ้านอรุโณทัย อ.เชียงดาว กรณีข้อร้องเรียนการบุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติออบหลวง อ.ฮอดและคืบหน้าในการพลิกฟื้นผืนป่าสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนตามนโยบายรัฐบาล
สำหรับกรณีบ้านพักตากอากาศ/รีสอร์ท รวมถึงกรณี “หุบเขาไฮโซ” พื้นที่ป่าสงวนแม่ท่าช้างและป่าแม่ขนิน อ.หางดง ทางสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 เชียงใหม่(สจป.1) ได้เปิดเผยว่า ทางคณะทำงานกลั่นกรองแล้วพบว่า อยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 134 ราย เนื้อที่กว่า 911 ไร่ โดยให้ยุติเรื่องชั้นคณะกรรมการ สจป.1 ส่วนกรณีข่าวล่าสุดหุบเขา"ไฮโซ" อ.หางดง จำนวน 6 ราย ได้สรุปส่งเอกสารให้กรมป่าไม้พิจารณาแล้ว รวมทั้งส่งข้อมูลให้กับสำนักงานป้องกันและเป็นปราบปรามการทุจริตภาครัฐเขตพื้นที่ 5 ดำเนินการอีกทางหนึ่ง ในส่วนคดีก็ให้ผู้เกี่ยวข้องได้เตรียมพร้อมในเอกสารหลักฐานให้ครบ เช่นเดียวกับคดีผู้ประกอบการเครื่องเล่น Flight of the Gibbon อ.แม่ออน ตอนนี้ดำเนินคดีไป 6 ราย อยู่ระหว่างสั่งรื้อถอนไป 3 ราย คดีอยู่ในชั้นพนักงานสอบสวนและอัยการอย่างละ 1 รายและอัยการสั่งไม่ฟ้องไป 1 ราย



ขณะเดียวกันที่ประชุมได้รับทราบความก้าวหน้าในการทำงานโดยจะมีเครื่องมือตรวจสอบพิกัดทางอากาศที่ชัดเจนเรื่องพื้นที่บุกรุก ซึ่งเป็นการบ้านจากที่มีการพบพื้นที่ป่า 8 จุดที่มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งจะมีการนำไปต่อยอดใช้ในการดูแลปัญหาไฟป่าและหมอกควันในปีต่อๆไปด้วย ส่วนคดีที่เกิดขึ้นในเรื่องการบุกรุกป่าและการตัดไม้ทำลายป่าเดือนสิงหาคม-กันยายนนี้พบว่า มีคดีไม่มากทั้งในส่วนของสำนักบริหารจัดการพื้นที่ป่าอนุรักษ์ที่ 16 และสำนักงานจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 เชียงใหม่(สจป.1) ที่ดูแลทั้งเขตป่าสงวนแห่งชาติและอุทยานฯ ทั้งนี้ประธานที่ประชุมยังเน้นย้ำให้ทุกอำเภอและทุกฝ่ายได้บูรณาการทำงานและเฝ้าระวังเพราะถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ บางกรณีอาจจะไม่สามารถแก้ไขได้เร็วอาจใช้เวลา เช่นกรณีของการแก้ไขบุกรุกป่าบ้านอรุโณทัย อ.เชียงดาว ที่มีการดำเนินการมากว่า 30-40 ปีแล้ว โดยมอบให้อำเภอสำรวจข้อมูลปัญหามาทั้งหมดก่อนเพื่อดูว่าส่วนไหนทำได้อย่างไรบ้าง เป็นต้น และทุกพื้นที่ก็ถือว่าเป็นพื้นที่เฝ้าระวังไม่เฉพาะที่มักมีคดีหรือเป็นข่าว เช่น หางดง อมก๋อย แม่แจ่ม เชียงดาว แม่วาง ฝาง แม่ริม แม่แตง แม่ออน เป็นต้น.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

บสย. เผยผลค้ำประกันสินเชื่อปี 61 ยอดค้ำทะลุ 8.8 หมื่นล้านบาท แผนปี 62 ปั้น "New Business Model 2019" ตอบโจทย์ โลกเปลี่ยน ตั้งเป้าค้ำ 1.07 แสนล้านบาท

ม.เกษตรฯโดยวิทยุ ม.ก.คว้ารางวัลองค์กรดีเด่นวงการสื่อของ สวทท.เตรียมเข้ารับพระราชทาน"รางวัลเทพทอง"ของปีนี้

จัดยิ่งใหญ่ครบรอบก่อตั้ง 60 ปีสถานีวิทยุ ม.ก.เชียงใหม่ ปลุกพลังวิถีปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงรับมือโลกแปรปรวน