เชียงใหม่เปิดบ้านต้อนรับทัพนักท่องเที่ยวรับฤดูท่องเที่ยวปีนี้เต็มที่ โชว์มนต์เสน่ห์เดิมและสีสันใหม่เป็นจุดขายไม่เหมือนเดิม
รัฐบาลเดินหน้าหนุนท่องเที่ยวจัดแคมเปญ
"ปีท่องเที่ยววิถีไทย เก๋ไก๋อย่างยั่งยืน Amazing Thailand Tourism Year 2018"
เพื่อหวังรายได้มหาศาล เชียงใหม่โชว์ความพร้อมเมืองท่องเที่ยวระดับโลกปีล่าสุด
รวมพลังทุกฝ่ายเปิดบ้านต้อนรับทัพนักท่องเที่ยวรับฤดูท่องเที่ยวปีนี้เต็มที่
โชว์มนต์เสน่ห์เดิมและสีสันใหม่เป็นจุดขายไม่เหมือนเดิม
เชียงใหม่
15 พ.ย.-นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เปิดเผยว่า นับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน
2560 เป็นต้นไป ถือเป็นช่วงเข้าสู่ฤดูกาลการท่องเที่ยวของพื้นที่และเป็นกิจกรรมที่มีรายได้มหาศาลเพิ่มสูงทุกๆปี
ในปีนี้ทางรัฐบาลก็ส่งเสริมด้านท่องเที่ยวมากขึ้นล่าสุดก็เปิดแคมเปญ ปีท่องเที่ยววิถีไทย
เก๋ไก๋อย่างยั่งยืน Amazing
Thailand Tourism Year 2018 ซึ่งจะเปิดกิจกรรมที่ กทม.ค่ำวันที่ 15
พ.ย.นี้ สำหรับจังหวัดเชียงใหม่ก็ให้ความสำคัญต่อการท่องเที่ยวมากเพราะเป็นรายได้หลัก
ปีนี้จึงได้ร่วมมือกับทุกภาคส่วนทั้งองค์กรของภาครัฐและเอกชนด้านการท่องเที่ยวจัดกิจกรรมส่งเสริมต่างๆ
นอกเหนือจาก เทศกาล งานประเพณีประจำปีต่างๆ ที่ทำปกติเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวยังจังหวัดเชียงใหม่แล้ว
เช่น งานประเพณีลอยกระทงที่เพิ่งผ่านมา เทศกาลชมสวน ณ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ ระหว่างวันที่ 1 ธันวาคม 2560 – 28 กุมภาพันธ์ 2561, งาน Chiang Mai Design Week 2017 ณ หอศิลปวัฒนธรรมเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 6 -10 ธันวาคม 2560, งาน Botanic Festival 2018 ณ สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ระหว่างวันที่ 23 ธันวาคม 2560 – 1 มกราคม 2561, เทศกาลเคาท์ดาวน์เชียงใหม่ 2018 ณ ลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ ระหว่างวันที่ 31 ธันวาคม 2560 – 1 มกราคม 2561, งานฤดูหนาวและ OTOP ประจำปีช่วงปลายปี 2560 และต้นปี 2561 , งานมหกรรมไม้ดอกไม้ประดับเชียงใหม่ ครั้งที่ 42 ณ สวนสาธารณหนองบวกหาด ระหว่างวันที่ 2 – 4 กุมภาพันธ์ 256 ,งานของดีอำเภอต่างๆ ทั้งสตรอเบอรี่สะเมิง ผ้าซิ่นตีนจก แม่แจ่ม ของดีจอมทอง เป็นต้น ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นที่รู้จักและเป็นปฏิทินการท่องเที่ยวของประเทศและนานาประเทศไปแล้ว โดยได้สร้างเม็ดเงินมหาศาลเข้าประเทศทุกๆปี คาดว่าปีนี้ก็เชื่อว่าจะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเช่นกัน
เช่น งานประเพณีลอยกระทงที่เพิ่งผ่านมา เทศกาลชมสวน ณ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ ระหว่างวันที่ 1 ธันวาคม 2560 – 28 กุมภาพันธ์ 2561, งาน Chiang Mai Design Week 2017 ณ หอศิลปวัฒนธรรมเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 6 -10 ธันวาคม 2560, งาน Botanic Festival 2018 ณ สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ระหว่างวันที่ 23 ธันวาคม 2560 – 1 มกราคม 2561, เทศกาลเคาท์ดาวน์เชียงใหม่ 2018 ณ ลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ ระหว่างวันที่ 31 ธันวาคม 2560 – 1 มกราคม 2561, งานฤดูหนาวและ OTOP ประจำปีช่วงปลายปี 2560 และต้นปี 2561 , งานมหกรรมไม้ดอกไม้ประดับเชียงใหม่ ครั้งที่ 42 ณ สวนสาธารณหนองบวกหาด ระหว่างวันที่ 2 – 4 กุมภาพันธ์ 256 ,งานของดีอำเภอต่างๆ ทั้งสตรอเบอรี่สะเมิง ผ้าซิ่นตีนจก แม่แจ่ม ของดีจอมทอง เป็นต้น ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นที่รู้จักและเป็นปฏิทินการท่องเที่ยวของประเทศและนานาประเทศไปแล้ว โดยได้สร้างเม็ดเงินมหาศาลเข้าประเทศทุกๆปี คาดว่าปีนี้ก็เชื่อว่าจะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเช่นกัน
ทั้งนี้ยังมีกิจกรรมปกติต่างๆ
จำนวนมากมายที่จัดขึ้นอีก เพื่อจะช่วยกระตุ้นบรรยากาศและดึงนักท่องเที่ยวให้เดินทางเช้ามายังพื้นที่เชียงใหม่และภาคเหนือมากขึ้น
เป็นกิจกรรมเชิงกีฬาและเปิดตัวแหล่งท่องเที่ยวใหม่เชิงวิถีชุมชนและธรรมชาติ
ซึ่งได้รับความชื่นชอบและมีกระแสนิยมสูงมาก อาทิ เนรมิตทุ่งนาเป็นที่เที่ยว
แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่สวยงามในพื้นที่อุทยานแห่งชาติต่างๆ กิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงกีฬา
ไม่ว่าจะเป็นงาน Lanna Marathon ณ
ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7
รอบ พระชนมพรรษา ในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2560, งาน
NAP ณ ถนนนิมมานเหมินท์ ซอย 1
ระหว่างวันที่ 5
– 11 ธันวาคม 2560, งานเชียงใหม่ ไบค์ วีค ครั้งที่ 16 ณ
ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7
รอบ พระชนมพรรษา ในวันที่ 9 ธันวาคม 2560, การแข่งขันมวยโลก
Thai Fight ณ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล แอร์พอร์ต เชียงใหม่
ในวันที่ 23 ธันวาคม 2560, งานเชียงใหม่มาราธอน
ณ ข่วงประตูท่าแพ ในวันที่ 24 ธันวาคม 2560, งานเชียงใหม่
แจ๊ส เฟสติวัล ครั้งที่ 7 ณ ห้างสรรพสินค้าพรอมเมนาด้า รีสอร์ท
มอลล์ ในวันที่ 20 มกราคม 2560
และงานปั่นพิชิตอินทนนท์ คนพันธุ์อึด ครั้งที่ 11 ณ
อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ในวันที่ 11 กุมภาพันธุ์ 2561
เป็นต้น ก็ล้วนเป็นกิจกรรมที่จะส่งเสริมและเพิ่มนักท่องเที่ยวในกลุ่มเฉพาะเหล่านี้อีกจำนวนมากด้วย
ขณะที่นางปิ่นนาถ
เจริญผล ผู้อำนวยการสำนักงาน ททท.สำนักงานเชียงใหม่ กล่าวว่า บรรยากาศท่องเที่ยวปีนี้ค่อนข้างมีสัญญาณที่ดีมากขึ้น
คาดว่าในปี 2561 นี้ จำนวนนักท่องเที่ยว
และรายได้ของจังหวัดเชียงใหม่จะเติบโตขึ้นไม่น้อยกว่า 8.5%
จากปี 2560 โดยเมื่อวันที่ 31
ตุลาคม 2560 ที่ผ่านมา จังหวัดเชียงใหม่ก็ได้รับการประกาศเป็นเมือง
เครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ของ UNESCO (UNESCO
Creative City Network ) ด้าน Craft and folk art (งานหัตถกรรม
และศิลปะพื้นบ้าน) เป็น 1 ใน 64
เมืองจาก 44 ประเทศทั่วโลก และยังมีสายการบิน Qatar
Airways กำหนดจะเปิดให้บริการเที่ยวบินตรงระหว่างประเทศเส้นทางโดฮา,
ประเทศกาตาร์ – เชียงใหม่
ซึ่งถือเป็นสายการบินแรกที่ให้บริการบินระยะไกลข้ามทวีป
คาดจะส่งผลให้มีนักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลาง ยุโรป และอเมริกา
เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวยังจังหวัดเชียงใหม่ได้สะดวกขึ้น และ สำหรับตลาดในประเทศ
ททท. ได้จัดทำแคมเปญ “แอ่วเหนือครั้งใหม่…ไม่เหมือนเดิม”
ซึ่งเชื่อว่า จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่
เพื่อสัมผัสกับมุมมองใหม่ สร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับการเดินทางท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
ทั้งนี้จังหวัดเชียงใหม่ยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่พร้อมเปิดรับท่องเที่ยวเข้ามาในช่วงฤดูหนาวนี้
อีกมาก โดยได้จัดทำเส้นทางท่องเที่ยวขึ้นเป็น เส้นทางแห่งความรัก…ศรัทธา…สายหมอก…ดอกไม้
อีก 5 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางที่ 1. ตามรอยศรัทธาแห่งขุนเขา
เส้นทางที่ 2. ตามรอยพ่อ วิถีพอเพียง เส้นทางที่ 3. ตามรอยรัก
รากนครา เส้นทางที่ 4. เที่ยวอินดี้ วิถีชุมชน และเส้นทางที่ 5.
หยิบหมอก หยอกลมหนาว ทั้งนี้เพื่อแนะนำเส้นทางท่องเที่ยวในช่วงหน้าหนาวให้แก่นักท่องเที่ยว
ซึ่งในช่วงระหว่างเดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์
ตามแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติของเชียงใหม่จะมีดอกไม้นานาชนิดที่บานสะพรั่งพร้อมต้อนรับผู้มาเยือนให้ได้ชมความสวยงามคละเคล้าไปกับสายลมเย็นและไอหมอกของฤดูหนาว สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ททท.
สำนักงานเชียงใหม่ เปิดให้บริการทุกวันระหว่างเวลา 08.30-16.30 น.
โทร. 0 5324 8604, 0 5324 8607 หรือ TAT Call Center โทร.
1672 เบอร์เดียวเที่ยวทั่วไทย ได้ทุกวันตั้งแต่เวลา 08.00-20.00
น. และสามารถติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวด้านการท่องเที่ยวของ ททท.
สำนักงานเชียงใหม่ ได้ทาง www.tourismchiangmai.org หรือ
Facebook : TAT Chiang Mai อีกช่องทางหนึ่ง.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น