เตรียมจัดใหญ่อีกงาน เทศกาลสตรอเบอร์รี่ของดี อ.สะเมิง 9-11 ก.พ.นี้

จังหวัดเชียงใหม่โดยอำเภอสะเมิง จัดแถลงข่าวชวนเที่ยวงาน เทศกาลสตรอเบอรี่ และของดีอำเภอสะเมิง ครั้งที่ 17 ประจำปี 2561 ระหว่าง 9-11 ก.พ.นี้ ปีนี้อากาศดีผลผลิตสวยหวานกำลังออกสู่ตลาด ราคาดีทำมูลค่าแก่เกษตรกรปีละหลายพันล้าน 

เมื่อบ่ายวันที่ 23 ม.ค.ที่ผ่านมาที่ห้องประชุมสำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดเชียงใหม่ อำเภอเมืองเชียงใหม่ นายมนัส ขันใส ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย นายสมพล แสนคำ เกษตรจังหวัดเชียงใหม่ นายชาตรี กิตติธนดิตถ์ นายอำเภอสะเมิง และนายวิทยา นาระต๊ะ รองประธานสภาเกษตรกรจังหวัดเชียงใหม่และประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้ปลูกสตรอเบอร์รี่อินทรีย์ อ.สะเมิง ร่วมกันแถลงข่าวการเตรียมจัดงาน เทศกาลสตรอว์เบอร์รี่ และของดีอำเภอสะเมิง ครั้งที่ 17 ประจำปี 2561 โดยกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 9 – 11 กุมภาพันธ์ 2561 นี้บริเวณสนามที่ว่าการอำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ โดยนายมนัส ขันใส ปลัดจังหวัดกล่าวว่า งานครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อการประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ชื่อเสียงผลผลิตสตรอว์เบอร์รี่ของอำเภอสะเมิงที่เป็นแหล่งปลูกที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศและมีคุณภาพดี ซึ่งถือเป็นงานด้านการท่องเที่ยวสำคัญของเชียงใหม่เนื่องจากสะเมิงเป็นพื้นที่ปลูกตรอเบอร์รี่มากที่สุดของประเทศ สร้างทั้งมูลค่าทางเศรษฐกิจและชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้าน อ.สะเมิง ซึ่งงานก็จัดยิ่งใหญ่ทุกปีมาต่อเนื่อง

ด้าน นายสมพล แสนคำ เกษตรจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า สถานการณ์การปลูกสตรอว์เบอร์รี่ในเชียงใหม่ ปี 2560/61 มีพื้นที่ปลูกจำนวน 6,178 ไร่ ในเขตอำเภอ 10 อำเภอ ได้แก่ สะเมิง แม่วาง ฝาง แม่แจ่ม แม่ริม จอมทอง แม่ออน หางดง กัลยาณิวัฒนา และอำเภอเมือง มีผลผลิตเฉลี่ยกว่า 2,100 กิโลกรัมต่อไร่ ซึ่งขณะนี้เริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิตไปแล้วประมาณ 2,064 ไร่ ผลผลิตที่เก็บเกี่ยวได้ประมาณ 4,334 ตัน (เฉลี่ยแต่ละปี 3-4 พันตัน) ปีนี้ผลผลิตออกดีผลสวยและรสหวานเพราะอากาศดีหนาว ช่วงติดดอกที่มีฝนก็ไม่ได้รับผลกระทบ ในเขตของพื้นที่อำเภอสะเมิง มีการผลิตสตรอว์เบอร์รี จำนวน 4,333 ไร่ จากเกษตรกรทั้งหมด 457 ราย ในส่วนของสำนักงานเกษตรจังหวัดเชียงใหม่ ได้รับงบประมาณจากกรมส่งเสริมการเกษตรดำเนินการ โครงการพัฒนาคุณภาพมารฐานสินค้าเกษตร (GAP) และแปลงใหญ่สตรอว์เบอร์รี ซึ่งมีสมาชิก 160 ราย พื้นที่ 1,021 ไร่ โดยมีศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร ( ศพก.) เป็นแหล่งเรียนรู้ในการผลิตสตรอว์เบอร์รีคุณภาพ ผลผลิตรวมทั้งจังหวัดเฉลี่ยแต่ละปีมีผลผลิตรวมกว่า 2 หมื่นตัน ทำรายได้ทั้งระบบหลายพันล้านบาท โดยปีนี้ราคาขายเฉลี่ยหน้าสวนถึง กก.ละ 100-200 บาท ถือว่าดีต่อเกษตรกรมาก 

ทั้งนี้นายอำเภอสะเมิงยังกล่าวว่า อำเภอสะเมิงเป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่เป็นเส้นทางของการตามรอยเท้าพ่อ ร.9 ที่ประชาชนได้น้อมนำศาสตร์พระราชามาพลิกคุณภาพชีวิต โดยเฉพาะการปลูกสตรอเบอร์รี่พันธุ์พระราชทาน เบอร์ 80 ที่สร้างรายได้มหาศาลในแต่ละปี ภายในงานยังจะมีเรื่องราวของสตรอเบอร์รี่ทุกกระบวนการตั้งเตรียมแปลงถึงเก็บเกี่ยวและแปรรูป พร้อมชิมสตรอเบอร์รี่สดๆ ปลอดสารพิษจากไร่ การนำผลผลิตสตรอว์เบอร์รี่มาจัดจำหน่ายแก่ผู้ที่มาเที่ยวชมงาน จะเน้นไปที่สตรอว์เบอร์รีปลอดภัย เพาะปลูกแบบปลอดสารพิษ และได้รับการตรวจสอบหาสารพิษตกค้างก่อนนำออกจำหน่าย เพื่อให้ผู้บริโภคมีความมั่นใจในความปลอดภัย ซึ่งงานในแต่ละปีสามารถสร้างบรรยากาศการท่องเที่ยวให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศได้สนุกสนานและได้ชิมสตรอเบอรี่สดๆ ที่ส่งตรงจากเกษตรกร นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมของดีด้านอื่นๆที่น่าสนใจอีกมากมาย มีผลผลิตทางการเกษตรและสินค้า Otop , การประกวดสตรอว์เบอร์รี่ , การประกวดธิดาชนเผ่า , นิทรรศการจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน , กาดมั่วครัวฮอม ตลาดสีเขียว และตลาดประชารัฐ , การแสดงมหรสพ เช่น มวย รำวง สวนสนุก และแสดงกิจกรรมต่างๆ ซึ่งในวันเสาร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา 07.30 น. จะเริ่มเคลื่อนขบวนรถบุปผชาติสตรอว์เบอร์รี่ผ่านเวทีกลาง ณ หน้าโรงเรียนสะเมิงพิทยาคม และในเวลา 08.49 น. ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ จะร่วมชมขบวนรถบุปผชาติสตรอว์เบอร์รี่ และการเดินแบบชุดสบายสไตล์สตรอว์เบอร์รี่ พร้อมเป็นประธานพิธีเปิดฯ อย่างเป็นทางการ

นายวิทยากล่าวเสริมว่า นอกเหนือจากการจัดงานตามปกติที่มีทุกปีแล้ว ปีนี้ยังมีการสาธิตการแปรรูปสตรอเบอร์รี่เช่น แยมแบบสดๆ การให้ความรู้แก่เกษตรกรและผู้สนใจเรื่องของสตรอเบอร์รี่ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ รวมถึงการส่งเสริมเรื่องอินทรีย์ที่เน้นความปลอดภัยทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภค เชื่อว่านักท่องเที่ยวจะไม่ผิดหวังเพราะนอกจากได้ชิมแบบสดๆตามสวนแล้ว ยังได้สัมผัสธรรมชาติอันสวยงามในกิจกรรมท่องเที่ยวชุมชนเกาตรเชิงอนุรักษ์และสิ่งแวดล้อมรุปแบบต่างๆที่แต่ละชุมชนน้ำเสนอโดยเฉพาะพื้นที่เพาะปลูกแหล่งใหญ่ ต.บ่อแก้ว