ชาวเชียงใหม่จำนวนมากออกมาแสดงพลังเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีแก้ปัญหาบ้านพักศาลฯขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพย้ำต้องรื้อ โพลล์หนุนคนไม่เอาด้วย
ชาวเชียงใหม่จำนวนมากออกมาแสดงพลังเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีแก้ปัญหา"บ้านป่าแหว่ง" ขอฟังเสียงประชาชนหาทางออกต้องให้รื้อ ด้าน“นิด้าโพล”ตอกย้ำ ปชช. ร้อยละ 85.20 ไม่เห็นด้วยกับโครงการ
เมื่อวันที่ 29 เม.ย.ที่บริเวณลานเอนกประสงค์ ประตูท่าแพ จังหวัดเชียงใหม่ ประชาชนชาวเชียงใหม่หลากหลายสาขาอาชีพ ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ จากเครือข่ายองค์กรภาคประชาสังคมกลุ่มต่างๆ กว่า 47 เครือข่าย ได้ร่วมกันทำกิจกรรมเดินรณรงค์มายังข่วงประตูท่าแพเพื่อร่วมกันประกาศเจตนารมณ์ของประชาชนชาวเชียงใหม่ในการทวงคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพกับกิจกรรม "ปกฮีต ป้องดอย สืบเจตนารมณ์ 722 ปี๋ บรรพชน" โดยนัดหมายกันแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ด้วยการผูกริบบิ้นสีเขียวที่บริเวณข้อมือ ป้ายข้อความต่างที่สื่อสารเพื่อขอทวงคืนผืนป่าดอยสุเทพ ก่อนจะร่วมกันอ่านแถลงการณ์ นำโดยนายชัชวาลย์ ทองดีเลิศ ผู้อำนวยการโฮงเฮียนสืบสานภูมิปัญญาล้านนา เพื่อเรียกร้องให้มีการดำเนินการรื้อถอนบ้านพักข้าราชการตุลาการศาลอุทธรณ์ภาค 5 ออกจากดอยสุเทพตามเจตนารมณ์ที่ได้ร่วมกันเรียกร้องก่อนหน้านี้ เพื่อส่งสัญญาณ ไปถึงพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขอให้พิจารณาตัดสินใจ แก้ไขปัญหากรณีดังกล่าว ให้เป็นไปในทิศทางที่สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนชาวเชียงใหม่
โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีการจัดกิจกรรมเพื่อแสดงออกและยืนยันเจตนารมณ์ของชาวเชียงใหม่ ซึ่งเหตุการณ์เป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย ท่ามกลางการดูแลของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเกี่ยวข้อง ก่อนที่กลุ่มผู้เรียกร้องจะเดินถือป้าย ริบบิ้นและผ้าสีเขียวรณรงค์ไปรอบๆคูเมืองและก่อนเข้ากราบสักการะพระบรมรานุสาวรีย์สามกษัตริย์ เพื่อขอพรให้การจัดกิจกรรมและเรียกร้องของชาวเชียงใหม่ในครั้งนี้ ประสบความสำเร็จเพื่อลูกหลาน ก่อนที่จะสลายตัวไปเพื่อรอติดตามความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหานี้ต่อไป
ขณะที่ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง “คนไทยคิดอย่างไร กับโครงการสร้างบ้านพักตุลาการศาลบริเวณดอยสุเทพ” โดยทำการสำรวจระหว่างวันที่ 21 – 23 เมษายน 2561 จากประชาชน ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา และอาชีพทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,250 หน่วยตัวอย่าง จากการสำรวจเมื่อถามประชาชนถึงความเหมาะสมในการสร้างบ้านพักตุลาการศาลบริเวณดอยสุเทพ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 85.20 ระบุว่า ไม่เหมาะสม เพราะ เป็นการทำลายป่าไม้ ทำลายธรรมชาติและระบบนิเวศ สิ้นเปลืองงบประมาณ ควรนำงบประมาณไปใช้ทำอย่างอื่นที่ก่อให้เกิดประโยชน์กับคนในพื้นที่ และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวไม่ควรมีสิ่งปลูกสร้าง ขณะที่บางส่วนระบุว่า บ้านพักควรสร้างในเมืองน่าจะดีกว่า รองลงมาร้อยละ 14.56 ระบุว่า เหมาะสม เพราะ เป็นพื้นที่ที่ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่เป็นการบุกรุกหรือรุกล้ำพื้นที่ป่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องคงจะพิจารณาตามความเหมาะสมมาอย่างดีแล้ว และเพื่อความสะดวกของเจ้าหน้าที่ที่มาปฏิบัติงาน และร้อยละ 0.24 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ ด้านการรับทราบของประชาชนว่าตามกฎหมายแล้วสามารถสร้างบ้านพักบริเวณดอยสุเทพได้ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 81.12 ระบุว่า ไม่ทราบ รองลงมา ร้อยละ 18.56 ระบุว่า ทราบ และร้อยละ 0.32 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ
สำหรับความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับการรื้อถอนบ้านพักตุลาการศาลบริเวณดอยสุเทพ ออกทั้งหมดนั้น พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 53.84 ระบุว่า เห็นด้วย เพราะ จะได้คืนผืนป่าให้กลับมาอุดมสมบูรณ์เหมือนเดิม และจะเป็นการช่วยอนุรักษ์ผืนป่าเอาไว้ รองลงมา ร้อยละ 43.68 ระบุว่า ไม่เห็นด้วย เพราะ จะทำให้สิ้นเปลืองงบประมาณในการรื้อถอน และเสียดายงบประมาณที่ใช้ไป ขณะที่บางส่วนระบุว่า ยังสามารถใช้ทำประโยชน์อย่างอื่นได้อีกและร้อยละ 2.48 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ
ทั้งนี้เมื่อถามถึงแนวทางในการแก้ปัญหาเรื่องการสร้างบ้านพักตุลาการศาลบริเวณดอยสุเทพ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 37.36 ระบุว่า ให้ยุติการก่อสร้าง รื้อถอนบ้านพักทั้งหมด และปลูกป่าทดแทนให้กลับเป็นตามเดิม รองลงมา ร้อยละ 25.92 ระบุว่า ให้ดำเนินการก่อสร้างต่อไป ไม่ต้องรื้อถอนแต่ให้ประชาชนเข้าไปใช้ประโยชน์แทน ร้อยละ 22.96 ระบุว่า ให้ยุติการก่อสร้าง และรื้อถอนบางส่วนที่กระทบกับสิ่งแวดล้อม ร้อยละ 7.52 ระบุว่า ให้ดำเนินการก่อสร้างต่อไปและให้ตุลาการศาลเข้าไปใช้พื้นที่เหมือนเดิม เพราะถูกต้องตามกฎหมาย ร้อยละ 2.80 ระบุว่า ให้ยุติการก่อสร้าง และทำความตกลงไม่มีการเรียกร้องค่าเสียหาย ร้อยละ 1.20 ระบุอื่น ๆ ได้แก่ ให้ดำเนินการก่อสร้างต่อไป และปลูกต้นไม้ทดแทนไปด้วย ให้ภาคเอกชนเข้ามาบริหารจัดการทำเป็นรีสอร์ทเพื่อให้คนในพื้นที่ได้มีงานทำ ขณะที่บางส่วนระบุว่า ให้ยุติการก่อสร้าง และเรียกร้องค่าเสียหาย และร้อยละ 2.24 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ
เมื่อวันที่ 29 เม.ย.ที่บริเวณลานเอนกประสงค์ ประตูท่าแพ จังหวัดเชียงใหม่ ประชาชนชาวเชียงใหม่หลากหลายสาขาอาชีพ ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ จากเครือข่ายองค์กรภาคประชาสังคมกลุ่มต่างๆ กว่า 47 เครือข่าย ได้ร่วมกันทำกิจกรรมเดินรณรงค์มายังข่วงประตูท่าแพเพื่อร่วมกันประกาศเจตนารมณ์ของประชาชนชาวเชียงใหม่ในการทวงคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพกับกิจกรรม "ปกฮีต ป้องดอย สืบเจตนารมณ์ 722 ปี๋ บรรพชน" โดยนัดหมายกันแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ด้วยการผูกริบบิ้นสีเขียวที่บริเวณข้อมือ ป้ายข้อความต่างที่สื่อสารเพื่อขอทวงคืนผืนป่าดอยสุเทพ ก่อนจะร่วมกันอ่านแถลงการณ์ นำโดยนายชัชวาลย์ ทองดีเลิศ ผู้อำนวยการโฮงเฮียนสืบสานภูมิปัญญาล้านนา เพื่อเรียกร้องให้มีการดำเนินการรื้อถอนบ้านพักข้าราชการตุลาการศาลอุทธรณ์ภาค 5 ออกจากดอยสุเทพตามเจตนารมณ์ที่ได้ร่วมกันเรียกร้องก่อนหน้านี้ เพื่อส่งสัญญาณ ไปถึงพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขอให้พิจารณาตัดสินใจ แก้ไขปัญหากรณีดังกล่าว ให้เป็นไปในทิศทางที่สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนชาวเชียงใหม่
โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีการจัดกิจกรรมเพื่อแสดงออกและยืนยันเจตนารมณ์ของชาวเชียงใหม่ ซึ่งเหตุการณ์เป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย ท่ามกลางการดูแลของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเกี่ยวข้อง ก่อนที่กลุ่มผู้เรียกร้องจะเดินถือป้าย ริบบิ้นและผ้าสีเขียวรณรงค์ไปรอบๆคูเมืองและก่อนเข้ากราบสักการะพระบรมรานุสาวรีย์สามกษัตริย์ เพื่อขอพรให้การจัดกิจกรรมและเรียกร้องของชาวเชียงใหม่ในครั้งนี้ ประสบความสำเร็จเพื่อลูกหลาน ก่อนที่จะสลายตัวไปเพื่อรอติดตามความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหานี้ต่อไป
ขณะที่ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง “คนไทยคิดอย่างไร กับโครงการสร้างบ้านพักตุลาการศาลบริเวณดอยสุเทพ” โดยทำการสำรวจระหว่างวันที่ 21 – 23 เมษายน 2561 จากประชาชน ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา และอาชีพทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,250 หน่วยตัวอย่าง จากการสำรวจเมื่อถามประชาชนถึงความเหมาะสมในการสร้างบ้านพักตุลาการศาลบริเวณดอยสุเทพ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 85.20 ระบุว่า ไม่เหมาะสม เพราะ เป็นการทำลายป่าไม้ ทำลายธรรมชาติและระบบนิเวศ สิ้นเปลืองงบประมาณ ควรนำงบประมาณไปใช้ทำอย่างอื่นที่ก่อให้เกิดประโยชน์กับคนในพื้นที่ และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวไม่ควรมีสิ่งปลูกสร้าง ขณะที่บางส่วนระบุว่า บ้านพักควรสร้างในเมืองน่าจะดีกว่า รองลงมาร้อยละ 14.56 ระบุว่า เหมาะสม เพราะ เป็นพื้นที่ที่ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่เป็นการบุกรุกหรือรุกล้ำพื้นที่ป่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องคงจะพิจารณาตามความเหมาะสมมาอย่างดีแล้ว และเพื่อความสะดวกของเจ้าหน้าที่ที่มาปฏิบัติงาน และร้อยละ 0.24 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ ด้านการรับทราบของประชาชนว่าตามกฎหมายแล้วสามารถสร้างบ้านพักบริเวณดอยสุเทพได้ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 81.12 ระบุว่า ไม่ทราบ รองลงมา ร้อยละ 18.56 ระบุว่า ทราบ และร้อยละ 0.32 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ
สำหรับความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับการรื้อถอนบ้านพักตุลาการศาลบริเวณดอยสุเทพ ออกทั้งหมดนั้น พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 53.84 ระบุว่า เห็นด้วย เพราะ จะได้คืนผืนป่าให้กลับมาอุดมสมบูรณ์เหมือนเดิม และจะเป็นการช่วยอนุรักษ์ผืนป่าเอาไว้ รองลงมา ร้อยละ 43.68 ระบุว่า ไม่เห็นด้วย เพราะ จะทำให้สิ้นเปลืองงบประมาณในการรื้อถอน และเสียดายงบประมาณที่ใช้ไป ขณะที่บางส่วนระบุว่า ยังสามารถใช้ทำประโยชน์อย่างอื่นได้อีกและร้อยละ 2.48 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ
ทั้งนี้เมื่อถามถึงแนวทางในการแก้ปัญหาเรื่องการสร้างบ้านพักตุลาการศาลบริเวณดอยสุเทพ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 37.36 ระบุว่า ให้ยุติการก่อสร้าง รื้อถอนบ้านพักทั้งหมด และปลูกป่าทดแทนให้กลับเป็นตามเดิม รองลงมา ร้อยละ 25.92 ระบุว่า ให้ดำเนินการก่อสร้างต่อไป ไม่ต้องรื้อถอนแต่ให้ประชาชนเข้าไปใช้ประโยชน์แทน ร้อยละ 22.96 ระบุว่า ให้ยุติการก่อสร้าง และรื้อถอนบางส่วนที่กระทบกับสิ่งแวดล้อม ร้อยละ 7.52 ระบุว่า ให้ดำเนินการก่อสร้างต่อไปและให้ตุลาการศาลเข้าไปใช้พื้นที่เหมือนเดิม เพราะถูกต้องตามกฎหมาย ร้อยละ 2.80 ระบุว่า ให้ยุติการก่อสร้าง และทำความตกลงไม่มีการเรียกร้องค่าเสียหาย ร้อยละ 1.20 ระบุอื่น ๆ ได้แก่ ให้ดำเนินการก่อสร้างต่อไป และปลูกต้นไม้ทดแทนไปด้วย ให้ภาคเอกชนเข้ามาบริหารจัดการทำเป็นรีสอร์ทเพื่อให้คนในพื้นที่ได้มีงานทำ ขณะที่บางส่วนระบุว่า ให้ยุติการก่อสร้าง และเรียกร้องค่าเสียหาย และร้อยละ 2.24 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น