เกษตรเชียงใหม่ควงนายอำเภอแม่วางพาสื่อลงพื้นที่ติดตามงานนโยบายสำคัญขับเคลื่อนเกษตรพอเพียง

เชียงใหม่สนองนโนบาย Zoning by Agri map ปลูกข้าวนาปีเชื่อมโยงสู่การผลิตหอมหัวใหญ่คุณภาพ ลดต้นทุน ปลอดสารพิษ นายอำเภอยันเดินหน้าพัฒนากสิกรรมด้วยศาสตร์พระราชาเต็มที่เพื่อความมั่นคงและยั่งยืน

เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2561 นายสมพล แสนคำ เกษตรจังหวัดเชียงใหม่ และนายมนัส สุริยสิงห์  นายอำเภอแม่วาง พร้อมด้วยเกษตรอำเภอแม่วาง และผู้เกี่ยวข้อง สื่อมวลชนร่วมกันลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมคืบหน้าและพบปะเกษตรกรผู้ปลูกข้าวในพื้นที่อำเภอแม่วาง ที่ปรับวิถีลดการใช้สารเคมีมาใช้ปุ๋นอินทรีย์ และใช้นวัตกรรมมาช่วยเก็บเกี่ยวลดทั้งต้นทุนและส่งเสริมสุขภาพที่ดีปลอดภัย จากอดีตที่เกษตรกรใช้สารเคมี ปุ๋ยเคมี 100% แล้วหันมาใช้สารชีวภัณฑ์ ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยอินทรีย์ในแปลงนาเพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพ สิ่งแวดล้อมและลดต้นทุนการผลิต ปรับปรุงดินให้มีความพร้อมในการปลูกพืชเศรษฐกิจสำคัญเช่น หอมหัวใหญ่ ทำให้ผลผลิตดีมีคุณภาพ ที่สำคัญเพิ่มรายได้มากขึ้น

โดยเกษตรจังหวัดเชียงใหม่กล่าวว่า พื้นที่ปลูกข้าวสำคัญหลักในอำเภอแม่วาง ได้แก่ ตำบลบ้านกาด ตำบลดอนเปา ตำบลทุ่งปี๊ ตำบลทุ่งรวงทอง พันธุ์ข้าวที่เกษตรกรนิยมปลูก ได้แก่ พันธุ์สันป่าตอง 1 ,กข 10 ,และ กข 14  รวมทั้งพันธุ์ กข-แม่โจ้ 2 ที่กำลังเริ่มปลูกมากขึ้น ส่วนตำบลแม่วิน นิยมปลูกข้าวเจ้าพันธุ์พื้นเมืองและข้าวเหนียวพันธุ์สันป่าตอง 1

โดยทางสำนักงานเกษตรจังหวัดเชียงใหม่ ได้มีการแนะนำให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวมีการเก็บเกี่ยวข้าวอย่างถูกต้อง ตรงตามระยะเวลาที่เหมาะสมเพื่อให้เกษตรกรได้รับราคาผลผลิตข้าวที่ดีไม่ถูกกดราคา และได้แนะนำการดูแลรักษาข้าว การสำรวจโรคและแมลง ศัตรูข้าว การระมัดระวังในการใช้สารป้องกันกำจัดโรคและแมลงศัตรูข้าวในระยะเก็บเกี่ยว ซึ่งมีการนำนวัตกรรมเครื่องมือเทคโนโลยีมาช่วยเช่ยเครื่องเก็บเกี่ยวข้าวที่สำเร็จเป็นเมล็ดข้าวเปลือกพร้อมจำหน่ายหรืออบ ตาก เพื่อลดความชื้น จากอดีตที่ใช้แรงงานคน หรือเครื่องแยกเกี่ยว บดสีข้าวเปลือก สามาถลดต้นทุนได้ถึง 50% ทั่งนี้พบว่า การทำการเกษตรของเกษตรกรอำเภอแม่วาง ในตำบลบ้านกาด ตำบลดอนเปา ตำบลทุ่งปี๊ หลังเก็บเกี่ยวข้าวเสร็จเกษตรกรจะมีการเตรียมดินเพื่อการเตรียมการเพาะปลูกหอมหัวใหญ่พืชเศรษฐกิจหลักต่อจากการปลูกข้าวนาปีทันที เดิมดินมีสารเคมีก็ทำให้หอมคุณภาพไม่ดี ตอนนี้คุณภาพดินดีก็ทำให้ผลผลิตมีคุณภาพด้วย โดยมีพื้นที่เพาะปลูกหอมหัวใหญ่จำนวน 3,488 ไร่ เกษตรกร จำนวน 871 ราย

ในการนี้เกษตรจังหวัดจึงได้แนะนำเกษตรกรให้มีการเตรียมความพร้อมในการปลูกหอมหัวใหญ่อย่างถูกต้องและเหมาะสม เช่น การใช้เมล็ดพันธุ์หอมหัวใหญ่ที่ดีมีคุณภาพ การเตรียมดินและปรับปรุงดินให้มีธาตุอาหารในดินที่เหมาะสม การป้องกันแมลงและโรคศัตรูหอมหัวใหญ่ โดยใช้สารชีวภัณฑ์ เชื้อราไตรโคเดอร์มา และบิวเวอร์เรีย ตลอดจนการใช้สารเคมีอย่างถูกต้องและเหมาะสม เพื่อให้เกษตรกรผลิตหอมหัวใหญ่ได้อย่างมีคุณภาพ เป็นที่ต้องการของตลาดและปลอดภัยต่อผู้บริโภค 

ขณะที่นายอำเภอแม่วางกล่าวว่า นอกจากให้ความรู้แก่เกษตรกรแล้ว ยังส่งเสริมการรวมกลุ่ม การแปรรูป การเชื่อมโยงในด้านอื่นๆตามนโยบายเช่น 9101 เกษตรแปลงใหญ่ ศูนย์การเรียนรู่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ศพก. การขับเคลื่อนพัฒนาด้านกสิกรรมด้วยศาสตร์พระราชา สู่เศรษฐกิจพอเพียง แต่ก็ยังต้องสร้างความเข้าใจให้ต่อเนื่อง เพราะเกษตรกรก็ยังต้องถูกกลไกตลาดจากพ่อค้าเอาเปรียบอยู่ที่สำคัญความซื่อสัตย์ต่อตนเองต่ออาชีพก็เป็นอีกปัจจัยที่เกษตรกรต้องตระหนักและการรวมกลุ่มกันจะช่วยให้เกิดความเป็นปึกแผ่นมากขึ้น 
 

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

บสย. เผยผลค้ำประกันสินเชื่อปี 61 ยอดค้ำทะลุ 8.8 หมื่นล้านบาท แผนปี 62 ปั้น "New Business Model 2019" ตอบโจทย์ โลกเปลี่ยน ตั้งเป้าค้ำ 1.07 แสนล้านบาท

ม.เกษตรฯโดยวิทยุ ม.ก.คว้ารางวัลองค์กรดีเด่นวงการสื่อของ สวทท.เตรียมเข้ารับพระราชทาน"รางวัลเทพทอง"ของปีนี้

จัดยิ่งใหญ่ครบรอบก่อตั้ง 60 ปีสถานีวิทยุ ม.ก.เชียงใหม่ ปลุกพลังวิถีปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงรับมือโลกแปรปรวน