อาจารย์ยักษ์เดินเครื่องเกษตรอินทรีย์ภาคเหนือทำ MOU ร่วมท่องเที่ยว-มท.ขยายผลตามเป้าหมาย 13 กลุ่มจังหวัด
เดินหน้าเต็มสูบ “วิวัฒน์ ศัลยกำธร” รมช.เกษตรฯ ควง รมว.ท่องเที่ยวฯ-รมช.มท. ขึ้นเหนือให้จังหวัดภาคเหนือทำ MOU ขับเคลื่อนการพัฒนาเกษตรอินทรีย์ หวังยกระดับคุณภาพชีวิต ปชช.ยั่งยืน ครอบคลุม 13 กลุ่มจังหวัด 56 จังหวัดทั่วประเทศ
เมื่อวันที่ 5 ก.ย. ที่ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ นายวิวัฒน์ ศัลยกำธร รมช.เกษตรและสหกรณ์พร้อมด้วยนายวีระศักดิ์ โค้วสุรัตน์ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา นายสุธี มากบุญ รมช.มหาดไทย ผู้แทนกระทรวงสาธารณสุขร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ การพัฒนาเกษตรอินทรีย์ ของจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือคือ กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 (เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แม่ฮ่องสอน)กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 1 (เพชรบูรณ์ พิษณุโลก ตาก สุโขทัย อุตรดิตถ์)และกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 2 (อุทัยธานี กำแพงเพชร นครสวรรค์ พิจิตร) โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่พร้อมด้วยผู้บริหารที่เกี่ยวข้องในกระทรวงเกษตรฯ ท่องเที่ยวฯ และมหาดไทย ทั้งส่วนกลางและภูมิภาคเข้าร่วมจำนวนมาก ในการนี้นายวิวัฒน์ยังได้มอบนโยบาย เพื่อร่วมแสดงเจตนารมณ์ในการขับเคลื่อนด้านเกษตรอินทรีย์ แนวทางตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงให้เป็นรูปธรรมชัดเจนตามที่รัฐบาลโดยกระทรวงเกษตรฯ กำลังให้ความสำคัญในเวลานี้เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีมีความมั่นคงแก่เกษตรกรและในงานครั้งนี้ยังได้จัดงานมหกรรมเกษตรอินทรีย์ รวมพลังร้อยใจทุกภาคส่วนในพื้นที่ ครั้งที่ 1 โดยกรมพัฒนาที่ดินเป็นเจ้าภาพหลัก ซึ่งมีนิทรรศการเกี่ยวกับเกษตรอินทรีย์ต่างๆ การแสดงสินค้าของกลุ่มเกษตรกรต้นแบบ ตลอดจนการเสวนาขับเคลื่อนงานบูรณาการโครงการอาหารปลอดภัยในโรงพยาบาล และสถานศึกษา ร่วมหนุนนำเกษตรอินทรีย์ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ปัญหาอุปสรรค ในการขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์ของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือดังกล่าวนี้ด้วย
รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์ของแต่ละจังหวัด ซึ่งจะขยายผลครอบคลุมทั้ง 13 กลุ่มจังหวัด 56 จังหวัด ภายใต้การกำกับติดตามการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์ระดับจังหวัด เพื่อให้เกิดการร่วมบูรณาการขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์ระดับพื้นที่กลุ่มจังหวัด รวมทั้งเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับกลุ่มเกษตรกรเกษตรอินทรีย์ในพื้นที่ ให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เรื่องเกษตรอินทรีย์จากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ตลอดจน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในนโยบายเกษตรอินทรีย์ของรัฐบาลและแนวทางการขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์โดยยึดหลักการทำงานเชิงพื้นที่เป็นหลักต่อไป
สำหรับ จังหวัดเชียงใหม่ นายสมพล แสนคำ เกษตรจังหวัดเชียงใหม่กล่าวว่า ทางหน่วยงานในสังกัดกระทรงเกษตรฯ ได้ดำเนินการขับเคลื่อนการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์การพัฒนาเกษตรอินทรีย์แห่งชาติ โดยการร่วมบูรณาการการทำงานจากทุกภาคส่วน โดยมีแหล่งผลิตสินค้าเกษตรที่ได้รับการรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ Organic Thailand การรับรองมาตรฐาน PGS จำนวนพื้นที่ 4,849.91ไร่ และมีตลาดเกษตรกรจำหน่ายสินค้าเกษตรปลอดภัยและเกษตรอินทรีย์ รวมจำนวน 6 แห่ง ได้แก่ 1.) ตลาดเกษตรกรจังหวัดเชียงใหม่ บริเวณสำนักงานเกษตรจังหวัดเชียงใหม่ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ 2.) ข่วงเกษตรอินทรีย์จังหวัดเชียงใหม่ บริเวณคลองชลประทาน ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ 3.) ตลาด Farmer's Market Chiangmai ในบริเวณกาดชุมชนเชียงใหม่อาหารปลอดภัย โครงการจริงใจ มาร์เกตเชียงใหม่ ถนนอัษฏาธร อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ 4.) ตลาดนัดเกษตรปลอดพิษ อาหารปลอดภัย (Clean, Green, & Safe Agricultural Farms) ไร่แม่เหียะ มหาวิทยาลัยชียงใหม่ 5.) ตลาดนัดเกษตรปลอดพิษ อาหารปลอดภัย (Clean, Green, & Safe Agricultural Farms) กาดโก้งโค้ง มหาวิทยาลัยชียงใหม่ และ 6.) กาดแม่โจ้ 2477 (ตลาดสินค้าเกษตรปลอดภัยและเกษตรอินทรีย์) เป็นต้น
และนอกจากนั้นในช่วง 6-7 ก.ย.นี้ คณะของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ ยังมีกำหนดลงพื้นที่ในเชียงใหม่เพื่อให้นโยบายด้านการบริหารจัดการน้ำระบบชลประทานในพื้นที่ต้นน้ำที่โครงการฝายผาแดง บ้านกองแขก อ.แม่แจ่ม การขับเคลื่อนโครงการพัฒนาระบบกสิกรรมด้วยศาสตร์พระราชาพื้นที่ลุ่มน้ำแจ่ม ลุ่มน้ำปิง สู่ระบบเศรษฐกิจพอเพียงระยะที่ 2 โครงการเอามื้อสามัคคี คืนชีวิตให้แจ่มด้วยศาสตร์พระราชาและจิตอาสาเราทำความดีเพื่อสังคม การจัดการป่าชุมชน ก่อนที่จะลงพื้นที่ต่อไปยังสถานีเกษตรหลวงดอยอนทนนท์ อ.จอมทอง และในวันที่ 8 ก.ย.61 เดินทางไปยัง อ.ห้างฉัตร จังหวัดลำปาง เพื่อปลูกป่าในโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช ตามแนวพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีด้วย.
เมื่อวันที่ 5 ก.ย. ที่ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ นายวิวัฒน์ ศัลยกำธร รมช.เกษตรและสหกรณ์พร้อมด้วยนายวีระศักดิ์ โค้วสุรัตน์ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา นายสุธี มากบุญ รมช.มหาดไทย ผู้แทนกระทรวงสาธารณสุขร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ การพัฒนาเกษตรอินทรีย์ ของจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือคือ กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 (เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แม่ฮ่องสอน)กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 1 (เพชรบูรณ์ พิษณุโลก ตาก สุโขทัย อุตรดิตถ์)และกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 2 (อุทัยธานี กำแพงเพชร นครสวรรค์ พิจิตร) โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่พร้อมด้วยผู้บริหารที่เกี่ยวข้องในกระทรวงเกษตรฯ ท่องเที่ยวฯ และมหาดไทย ทั้งส่วนกลางและภูมิภาคเข้าร่วมจำนวนมาก ในการนี้นายวิวัฒน์ยังได้มอบนโยบาย เพื่อร่วมแสดงเจตนารมณ์ในการขับเคลื่อนด้านเกษตรอินทรีย์ แนวทางตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงให้เป็นรูปธรรมชัดเจนตามที่รัฐบาลโดยกระทรวงเกษตรฯ กำลังให้ความสำคัญในเวลานี้เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีมีความมั่นคงแก่เกษตรกรและในงานครั้งนี้ยังได้จัดงานมหกรรมเกษตรอินทรีย์ รวมพลังร้อยใจทุกภาคส่วนในพื้นที่ ครั้งที่ 1 โดยกรมพัฒนาที่ดินเป็นเจ้าภาพหลัก ซึ่งมีนิทรรศการเกี่ยวกับเกษตรอินทรีย์ต่างๆ การแสดงสินค้าของกลุ่มเกษตรกรต้นแบบ ตลอดจนการเสวนาขับเคลื่อนงานบูรณาการโครงการอาหารปลอดภัยในโรงพยาบาล และสถานศึกษา ร่วมหนุนนำเกษตรอินทรีย์ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ปัญหาอุปสรรค ในการขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์ของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือดังกล่าวนี้ด้วย
รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์ของแต่ละจังหวัด ซึ่งจะขยายผลครอบคลุมทั้ง 13 กลุ่มจังหวัด 56 จังหวัด ภายใต้การกำกับติดตามการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์ระดับจังหวัด เพื่อให้เกิดการร่วมบูรณาการขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์ระดับพื้นที่กลุ่มจังหวัด รวมทั้งเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับกลุ่มเกษตรกรเกษตรอินทรีย์ในพื้นที่ ให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เรื่องเกษตรอินทรีย์จากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ตลอดจน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในนโยบายเกษตรอินทรีย์ของรัฐบาลและแนวทางการขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์โดยยึดหลักการทำงานเชิงพื้นที่เป็นหลักต่อไป
สำหรับ จังหวัดเชียงใหม่ นายสมพล แสนคำ เกษตรจังหวัดเชียงใหม่กล่าวว่า ทางหน่วยงานในสังกัดกระทรงเกษตรฯ ได้ดำเนินการขับเคลื่อนการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์การพัฒนาเกษตรอินทรีย์แห่งชาติ โดยการร่วมบูรณาการการทำงานจากทุกภาคส่วน โดยมีแหล่งผลิตสินค้าเกษตรที่ได้รับการรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ Organic Thailand การรับรองมาตรฐาน PGS จำนวนพื้นที่ 4,849.91ไร่ และมีตลาดเกษตรกรจำหน่ายสินค้าเกษตรปลอดภัยและเกษตรอินทรีย์ รวมจำนวน 6 แห่ง ได้แก่ 1.) ตลาดเกษตรกรจังหวัดเชียงใหม่ บริเวณสำนักงานเกษตรจังหวัดเชียงใหม่ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ 2.) ข่วงเกษตรอินทรีย์จังหวัดเชียงใหม่ บริเวณคลองชลประทาน ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ 3.) ตลาด Farmer's Market Chiangmai ในบริเวณกาดชุมชนเชียงใหม่อาหารปลอดภัย โครงการจริงใจ มาร์เกตเชียงใหม่ ถนนอัษฏาธร อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ 4.) ตลาดนัดเกษตรปลอดพิษ อาหารปลอดภัย (Clean, Green, & Safe Agricultural Farms) ไร่แม่เหียะ มหาวิทยาลัยชียงใหม่ 5.) ตลาดนัดเกษตรปลอดพิษ อาหารปลอดภัย (Clean, Green, & Safe Agricultural Farms) กาดโก้งโค้ง มหาวิทยาลัยชียงใหม่ และ 6.) กาดแม่โจ้ 2477 (ตลาดสินค้าเกษตรปลอดภัยและเกษตรอินทรีย์) เป็นต้น
และนอกจากนั้นในช่วง 6-7 ก.ย.นี้ คณะของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ ยังมีกำหนดลงพื้นที่ในเชียงใหม่เพื่อให้นโยบายด้านการบริหารจัดการน้ำระบบชลประทานในพื้นที่ต้นน้ำที่โครงการฝายผาแดง บ้านกองแขก อ.แม่แจ่ม การขับเคลื่อนโครงการพัฒนาระบบกสิกรรมด้วยศาสตร์พระราชาพื้นที่ลุ่มน้ำแจ่ม ลุ่มน้ำปิง สู่ระบบเศรษฐกิจพอเพียงระยะที่ 2 โครงการเอามื้อสามัคคี คืนชีวิตให้แจ่มด้วยศาสตร์พระราชาและจิตอาสาเราทำความดีเพื่อสังคม การจัดการป่าชุมชน ก่อนที่จะลงพื้นที่ต่อไปยังสถานีเกษตรหลวงดอยอนทนนท์ อ.จอมทอง และในวันที่ 8 ก.ย.61 เดินทางไปยัง อ.ห้างฉัตร จังหวัดลำปาง เพื่อปลูกป่าในโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช ตามแนวพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีด้วย.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น