รับสมัคร ส.ส. เชียงใหม่วันแรกคึกคักเกือบ 30 พรรค ร่วม 200 คน กองเชียร์หนาแน่น ประธาน กกต.”อิทธิพร บุญประคอง”ลงพื้นที่ดูเองพอใจเรียบร้อย ไม่ห่วงประชาชนสับสนกติกาใหม่

ปิดฉากรับสมัคร ส.ส. เชียงใหม่วันแรกคึกคักเกือบ 30 พรรค ร่วม 200 คน กองเชียร์หนาแน่น ประธาน กกต.”อิทธิพร บุญประคอง”ลงพื้นที่ดูเองพอใจเรียบร้อย ไม่ห่วงประชาชนสับสนกติกาใหม่แต่ละเขตพรรคเดียวกันคนละเบอร์ เร่งประชาสัมพันธ์ให้เข้าใจ เชื่อไม่กระทบกับคนใช้สิทธิ์กับบัตรเสีย ด้านผู้สมัครพรรคใหญ่ตบเท้าพรึบ แกนนำเพื่อไทยยังมั่นใจยังรักษาเก้าอี้ไว้ได้ พลังประชารัฐ"กอบศักดิ์" ควงแม่ลูกกิ่งกาญจน์-ดร.แป้งและทีม พปชร.ลงชิง 9 เขต อีกหลายพรรคก็มั่นใจ เชื่อประชาชนดูนโยบาย -ผู้สมัครคุณภาพ

เชียงใหม่ 4 ก.พ.-ที่อาคารคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยพายัพ บรรยากาศของการรับสมัครเลือกตั้ง ส.ส วันแรกที่จังหวัดเชียงใหม่คึกคักตั้งแต่เช้าตรู่ก่อนจะสิ้นสุดเวลาปิดรับสมัคร 16.30 น.ในวันนี้มีผู้สมัครที่มายื่นใบสมัครทั้งสิ้น จาก 28 พรรคการเมือง จำนวน 172 คน โดยมีผู้สมัครมาก่อนเวลา 08.30 น. มี 160 คน ส่วนใหญ่เป็นอดีต ส.ส. ของพรรคการเมืองต่างๆ ซึ่งหลังจากได้หมายเลข ในการรับสมัครแล้ว หากผู้สมัครและกองเชียร์ก็ติดป้ายออกหาเสียงกันทันที แต่ก็ยังพบว่าหลายคนเอกสารหลักฐานไม่พร้อมต้องมาสมัครวันใหม่โดยทางเจ้าหน้าที่ กกต. ได้มีการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับบรรดาผู้มาสมัครรับเลือกตั้งไว้เต็มที่แต่ก็แน่นเต็มพื้นที่ ท่ามกลางการดูแลความเรียบร้อบอำนวยความสะดวกการจราจร โดยพบว่า มีทั้งบรรดาผู้สมัครหน้าเก่าและหน้าใหม่ พร้อมกองเชียร์ รถแห่ ที่เตรียมความพร้อมหาเสียงทันทีที่ได้หมายเลขผู้สมัคร 

โดยสีสันพรรคใหญ่เช่นพรรคพลังประชารัฐ มีนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรค อดีต รมต.สำนักนายกฯ มานำผู้สมัครรับสมัครเอง ครบทั้ง 9 เขต โดยเฉพาะทีมครอบครัว " ณ เชียงใหม่" ดร.แป้ง-เดือดนเต็มดวง และนางกิ่งกาญจน์ ณ เชียงใหม่ ที่หันมาลงชิงในนามพรรคพลังประชารัฐ โดยนายกอบศักดิ์ระบุว่า พรรคมีความพร้อมอย่างมากทั้งนโยบายและตัวคนลงสมัคร และเชื่อว่าประชาชนจะสนับสนุนให้สานต่องานเนื่องจากมีนโยบายที่ตอบสนองความต้องการของประชาชนทุกกลุ่ม และเน้นรัฐสวัสดิการซึ่งโดนใจประชาชน และยอมรับว่า พรรคไม่ได้เปรียบพรรคอื่นแต่อย่างใดแม้จะเป็นรัฐบาลมา เนื่องจากเป็นพรรคใหม่ แต่ก็มีผลงานที่จะสานต่อตามที่ประชาชนต้องการ สำหรับจังหวัดเชียงใหม่เชื่อว่าจะได้ 4-5 ที่นั่ง รวมทั้งภาคเหนือก็น่าจะมีที่นั่งหลายพื้นที่ และหลังได้หมายเลขก็ได้พาผู้สมัครไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์และขึ้นรถหาเสียงไปรอบเมืองเชียงใหม่ด้วย

ขณะที่ ดร.เดือนเต็มดวง ณ เชียงใหม่ ผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐ เขต 5 กล่าวว่า ได้ลงพื้นที่ต่อเนื่องนานหลายเดือนแล้ว โดยการหาเสียงใช้วิธีพบปะประชาชนเป็นหลัก เนื่องจากเป็นพื้นที่ห่างไกล ฐานเสียงดีมาก จึงมั่นใจเต็มที่ เข่นเดียวกับมารดาคือ นางกิ่งกาญจน์ ณ เชียงใหม่ ก็ลงสมัครในนามพรรค พลังประชารัฐ ในพื้นที่เขต 4 ด้วย ก็เชื่อมั่นในฐานเสียงแม้จะมีคู่แข่งสำคัญเจ้าของพื้นที่เดิมอยู่ก็ตาม

ด้านนายพรชัย จิตนวเสถียร ผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เขต 1 กล่าวยอมรับว่า ส่วนตัวมีความพร้อมทำงานการเมืองมาก แต่ด้วยกฎระเบียบการเลือกตั้งครั้งนี้เปลี่ยนแปลงไป ทำให้ต้องใช้กลยุทธ์ในการเข้าถึงประชาชนให้มากขึ้น เนื่องจากประชากรในเขตเมืองมีมากกว่าแสนเก้าหมื่นคน อีกทั้งหมายเลขผู้สมัครแต่ละเขตก็ต่างกัน อาจจะทำให้ประชาชนสับสนได้ อย่างไรก็ตามจะเน้นการหาเสียงทุกรูปแบบโดยเฉพาะการใช้โซเชียลมีเดีย เชื่อมั่นว่าประชาชนเคยเห็น การทำงานที่ผ่านมาและน่าจะสามารถ เอาชนะใจได้ โดยไม่หนักใจ กับคู่แข่งขันอื่นๆ เช่นเดียวกับทุกๆเขตด้วย

นายชำนาญ จันทร์เรือง แกนนำผู้สมัครปาร์ตี้ลิสท์ ลำดับที่ 14 ของพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า ในส่วนเชียงใหม่ พรรคส่งผู้สมัครครบทุกเขต ทั้ง 9 เขต โดยมีความพร้อมมาก แม้จะเป็นพรรคใหม่ แต่ก็มีสำนักงานพรรค ครบทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศ โดยพรรคไม่มีหัวคะแนน แต่ใช้เงินบริจาค ลงพื้นที่เป็นหลัก ตามนโยบาย 3 ฐานหลัก คือการกระจายอำนาจ ปฏิวัติการศึกษา และรัฐสวัสดิการ ทั้งนี้พรรคค่อนข้างมั่นใจว่าประชาชนจะให้การตอบรับ เพราะเป็นพรรคใหม่ที่ไม่มีบาดแผล ไม่มีรอยด่าง โดยทั่วประเทศส่งก็ส่งผู้สมัครครบทั้ง 350 เขต และมั่นใจว่าจะชนะใจประชาชนได้เช่นกัน

ส่วนนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย เขต 5 ที่ลาออกจากพรรคเพื่อธรรมก่อนหน้านี้เพื่อมาลงสมัครในนามพรรคเดิมเพื่อไทยกล่าวว่า ภาพรวมยังมั่นใจว่า พรรคจะได้รับความนิยมจากประชาชนเช่นเดิมและฐานเสียงเดิมก็ยังหนาแน่น ซึ่งน่าจะสามารถกวาดที่นั่ง ส.ส. ได้ทั้ง 9 เขต เช่นเดียวกับในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนด้วย ก็น่าจะสามารถรักษาตำแหน่งในฐานะเจ้าของพื้นที่ไว้ได้แม้หลายคนจะย้ายไปพรรคการเมืองอื่น แต่ทางพรรคก็มีบุคลากรคุณภาพ ที่จะมาลงชดเชย ซึ่งก็ไม่น่าหนักใจอะไรเพราะผ่านมาผลงานชัดเจนอยู่แล้ว

ด้านนายเกรียงไกร พานดอกไม้ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่าภาพรวมบรรยากาศการรับสมัคร ส.ส.วันนี้ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่น่าเป็นห่วง ผู้สมัครสามารถหาเสียงได้ทันที ส่วนการหาเสียงผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย หลังจากแจ้งกกต.แล้วสามารถทำได้ ทั้งการโพสต์ หรือไลฟ์สด แต่ต้องใช้ถ้อยคำที่สุภาพ เหมาะสม ซึ่งวันสมัครวันแรกถือว่าได้รับความสนใจมากมีพรรคการเมืองต่างๆส่งผู้สมัครมาถึง 28 พรรคและ 20 พรรคมาก่อนเวลา 08.30 น.ผู้สมัครโดยรวมวันแรก ก็มีเกือบ 200 คน

ในขณะที่นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งกลาง ที่เดินทางมาตรวจดูความเรียบร้อยก็ได้เปิดเผยว่า เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่มีการตื่นตัวทางด้านการเมืองกันเป็นอย่างมาก เห็นได้จากการมารับสมัครอย่างคึกคัก ซึ่งเท่าที่ได้รับรายงานจะมีเกือบทุกจังหวัดที่เป็นแบบนี้ ทำให้เห็นว่าประชาชนตื่นตัวและพรรคการเมืองเองก็มีความสนใจและให้ความร่วมมือด้วยดี ซึ่งบรรยากาศตอนนี้ก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อยดี อย่างไรก็ตามได้กำชับให้ทาง กกต.จังหวัด ทำหน้าที่เต็มที่ โดยเฉพาะย้ำเรื่องการเร่งรณรงค์ทำความเข้าใจประชาชนให้มากเกี่ยวกับการเลือกตั้ง และบัตรเลือกตั้งที่มีใบเดียว และแต่ละพรรคแต่ละเขตก็ต่างหมายเลขกัน อาจทำให้มีความสับสนและเกิดบัตรเสียได้ ซึ่งจะต้องเร่งประชาสัมพันธ์อย่างเต็มที่ในเวลาที่เหลือนี้ พร้อมฝากไปถึงประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งต้องการใช้สิทธิ์ล่วงหน้าก็ให้ไปแสดงความจำนงตามกำหนดเวลาด้วย

สำหรับบรรดากองเชียร์ของผู้สมัครครั้งนี้ก็ถือว่า ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยเฉพาะเรื่องของการใช้ขบวนแห่ ปีนี้พบเฉพาะเพียงการนำแค่ป้ายหาเสียง และพวงมาลัยดอกไม้ เข้ามาให้กำลังใจ มีการทักทาย ระหว่างกลุ่มพรรคการเมืองต่างๆ ที่ต่างก็รู้จักกันดี จึงทำให้บรรยากาศอบอุ่นสมานฉันท์ไปอีกแบบหนึ่ง.