ซันสวีทเผยผลประกอบการปี 61 รายได้แตะ 2 พันล้านบาท แต่กำไรลดลงกว่าครึ่งเหลือสุทธิกว่า 56.4 ล้านบาท ตั้งเป้าปี 62 ขยาย 15%

บมจ.ซันสวีทปรับสัดส่วนผลิตภัณฑ์ดันยอดส่งออกข้าวโพดหวานต่างประเทศ เดินหน้าเครื่องจักรใหม่ขยายกำลังผลิต เตรียมจ่ายปันผลเพิ่มอีก 0.05 บาท/หุ้น รวมปันผลทั้งปี 0.10 บาท/หุ้น กำหนดจ่าย 17 พ.ค. 62 ตั้งเป้ารายได้เติบโตจากปีก่อนไม่น้อยกว่า 15% หลังผลประกอบการปี 61 ทำรายได้แตะ 2 พันล้านบาท กำไรสุทธิลดกว่าครึ่งเหลือ 56.4 ล้านบาท

เชียงใหม่ 26 ก.พ.- ดร.องอาจ กิตติคุณชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ซันสวีท จำกัด (มหาชน) หรือ SUN ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ข้าวโพดหวาน ภายใต้ตราสินค้า KC เปิดเผยว่า ตั้งแต่ต้นปี 2562 บริษัทได้เพิ่มประสิทธิภาพเครื่องจักรสำหรับสายการผลิตข้าวโพดหวานบรรจุกระป๋อง (Canned) และ ประเภทบรรจุถุงสุญญากาศ (Pouch) รวมถึงติดตั้งเครื่องจักรเพื่อขยายสายการผลิตข้าวโพดหวานแช่แข็ง (Frozen) แล้วเสร็จพร้อมดำเนินการผลิตเต็มศักยภาพ ส่งผลให้ผลิตข้าวโพดหวานทั้งปีได้เพิ่มขึ้น 10-15% หรือประมาณ 150,000 ตัน ซึ่งเพิ่มจากยอดกำลังการผลิตของปีก่อนที่ 128,000 ตัน โดยแบ่งเป็นสัดส่วนการผลิตข้าวโพดหวานบรรจุกระป๋องอยู่ที่ 60% ข้าวโพดหวานประเภทบรรจุถุงสุญญากาศ 15% และเพิ่มผลิตภัณฑ์ข้าวโพดหวานแช่แข็งเป็น 25% จากการผลิตทั้งหมด

ทั้งนี้ปัจจุบันบริษัทยังคงสัดส่วนตลาดต่างประเทศอยู่ที่ 80% ของการขายทั้งหมด เน้นกลุ่มลูกค้าประเทศที่นิยมบริโภคผลิตภัณฑ์ข้าวโพดหวาน อาทิ ภูมิภาคเอเชียตะวันออก ได้แก่ ประเทศญี่ปุ่น เกาหลี ไต้หวัน และ กลุ่มทวีปยุโรป รวมไปถึงการเปิดตลาดใหม่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ ประเทศอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ซึ่งใช้วิธีการนำผลิตภัณฑ์ออกงานแสดงสินค้าต่างๆ เพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิม และ สร้างกลุ่มลูกค้าใหม่ให้เพิ่มขึ้น ที่เหลืออีก 20% เป็นสัดส่วนการขายในประเทศที่จะออกผลิตภัณฑ์ใหม่และเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายไปร้านสะดวกซื้อต่างๆ โดยคาดว่ายอดขายทั้งหมดจะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 15% จากปี 2561

“จากการที่นำผลิตภัณฑ์ออกงานแสดงสินค้าในช่วงปีที่ผ่านมา เราได้รับคำสั่งซื้อจากลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปีนี้บริษัทมีแผนดำเนินการปรับสัดส่วนและขยายกำลังการผลิตมากขึ้น นอกจากนี้เรายังมีการทำ Forward Contract ให้เป็นมาตรฐานของบริษัทเพื่อบริหารความเสี่ยงในเรื่องค่าเงิน และถึงแม้ว่าบริษัทจะประสบกับความเปลี่ยนแปลงของค่าเงินที่แข็งค่าขึ้นก็ตาม แต่หากพิจารณาถึงยอดปริมาณผลผลิตที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกปี ก็เชื่อว่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้”

ดร.องอาจกล่าวว่า สำหรับที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่1/2562 ได้มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลในอัตราเพิ่มหุ้นละ 0.05 บาท เป็นเงิน 21.5 ล้านบาทจากที่ได้ปันผลระหว่างกาลไปแล้วในอัตราหุ้นละ 0.05บาท รวมเป็นหุ้นละ0.10 บาท เป็นเงินจำนวน 43 ล้านบาทคิดเป็น 79.98% ของกำไรสุทธิปี 2561 โดยเงินปันผลดังกล่าวจ่ายจากกำไรสุทธิที่ได้รับยกเว้นสิทธิประโยชน์ส่งเสริมการลงทุน (BOI) จะกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับเงินปันผล (RecordDate) ในวันที่ 2 พฤษภาคม 2562 และกำหนดจ่ายปันผลวันที่ 17 พฤษภาคม 2562 ก่อนนำเสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นเพื่อกำหนดจ่ายในวันที่ 22 เมษายน 2562

อย่างไรก็ตาม ในส่วนผลประกอบการ ปี 2561 บริษัทมีรายได้เท่ากับ 1,838.4 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และกำไรสุทธิ 56.4 ล้านบาท หรือ ลดลง 52% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากสภาวะอัตราค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนและมีรายได้ต่อหน่วยที่ลดลงเล็กน้อย ส่งผลต่อการรับรู้รายได้ กำไรขั้นต้น และอัตราการทำกำไรขั้นต้นที่ลดลง.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

บสย. เผยผลค้ำประกันสินเชื่อปี 61 ยอดค้ำทะลุ 8.8 หมื่นล้านบาท แผนปี 62 ปั้น "New Business Model 2019" ตอบโจทย์ โลกเปลี่ยน ตั้งเป้าค้ำ 1.07 แสนล้านบาท

ม.เกษตรฯโดยวิทยุ ม.ก.คว้ารางวัลองค์กรดีเด่นวงการสื่อของ สวทท.เตรียมเข้ารับพระราชทาน"รางวัลเทพทอง"ของปีนี้

จัดยิ่งใหญ่ครบรอบก่อตั้ง 60 ปีสถานีวิทยุ ม.ก.เชียงใหม่ ปลุกพลังวิถีปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงรับมือโลกแปรปรวน