ชาวบ้านนาคอเรือ อ.ฮอด ใกล้ฝันเป็นจริง จะได้อ่างเก็บน้ำห้วยแม่ป่าไผ่ อันเนื่องมาจากพระราชดำริแล้ว
ชาวบ้านนาคอเรือ อ.ฮอด ใกล้ฝันเป็นจริง ได้อ่างเก็บน้ำห้วยแม่ป่าไผ่ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ล่าสุดที่ประชุมเวทีรับฟังความคิดเห็นของประชาชน กลุ่มย่อย ครั้งที่ 1 ในโครงการศึกษาวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ต่างเห็นพ้องกับที่ตั้งอ่างเก็บน้ำ ที่ห้วยแม่ป่าไผ่ ตามผลการศึกษา
เมื่อวันที่ 25 ก.พ.นายวิฑูรย์ ฐิติธนภัค รองผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 1 เชียงใหม่ ตัวแทนกรมชลประทานเปิดเผยว่า การดำเนินการโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำพื้นที่ตำบลนาคอเรือ อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ มีความคืบหน้าไปมาก ซึ่งชาวบ้านมีความต้องการและร่วมกันผลักดันมานานและถวายฎีกาไว้ กระทั่งกรมชลประทานได้ประชุมชี้แจงเปิดตัวโครงการเมื่อปลายปี 2561 ที่ผ่านมาและล่าสุดที่ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลนาคอเรือ อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ กลุ่มบริษัทที่ปรึกษาซึ่งกรมชลประทานว่าจ้าง คือ บริษัท ปัญญา คอนซัลแตนท์ จำกัด และบริษัท ไทยคอนซัลแตนท์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ได้จัดเวทีรับฟังความคิดเห็นของประชาชน กลุ่มย่อย ครั้งที่ 1 เพื่อเสนอความก้าวหน้า พร้อมทั้งการรับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ และข้อห่วงกังวลจากประชาชนในพื้นที่โครงการ รวมทั้งภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบของการศึกษาทางเลือกต่างๆ ของการพัฒนาโครงการ เพื่อนำประเด็นต่างๆ ไปผนวกเข้ากับการศึกษาโครงการให้ครบถ้วน สอดคล้องกับความต้องการของประชาชน ตามแนวทางการมีส่วนร่วมของประชาชน ในกระบวนการจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมของสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) โดยมีนายอนันต์ ภัทรเดชมงคล นายอำเภอฮอด เป็นประธานเปิดการประชุมกลุ่มย่อย โดยมีประชาชนในพื้นที่มาเข้าร่วมประชุมรวม 113 คน ประกอบด้วย ประชาชนในพื้นที่โครงการ คิดเป็นร้อยละ 44.25 และหน่วยงานราชการระดับจังหวัด อำเภอ และตำบล หน่วยงานที่รับผิดชอบจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม สถาบันการศึกษา และสถานพยาบาล คิดเป็นร้อยละ 55.75 ของจำนวนผู้เข้าร่วมประชุมทั้งหมด
นายวิฑูรย์กล่าวว่า ในเวทีครั้งนี้ประเด็นที่ผู้เข้าร่วมประชุมได้แสดงความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ คือ เสนอให้ศึกษาเรื่องระบบส่งน้ำให้เหมาะกับสภาพพื้นที่ โดยอาจผสมผสานหลายรูปแบบเข้าด้วยกัน เช่น คลองส่งน้ำเดิม คลองส่งน้ำใหม่ ท่อส่งน้ำ เพราะหากเสนอระบบส่งน้ำเป็นท่อส่งน้ำทั้งหมดจะทำให้โครงการมีงบประมาณสูง และอาจก่อสร้างโครงการไม่ได้ เมื่อโครงการเกิดขึ้น ชุมชนและภาคส่วนที่เกี่ยวข้องจะรวมกลุ่มองค์กรผู้ใช้น้ำเพื่อร่วมกันบริหารจัดการและใช้ประโยชน์จากโครงการครอบคลุมทั้งตำบลนาคอเรือ และ 2 หมู่บ้านของตำบลฮอด นอกจากนี้ยังเสนอให้นำองค์ความรู้ของศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ มาเป็นแนวทางในการพัฒนาและฟื้นฟูพื้นที่ตำบลนาคอเรือให้มีสภาพพื้นที่ป่าไม้ที่สมบูรณ์ ประชาชนสามารถประกอบอาชีพเกษตรกรรม และปศุสัตว์ให้ดียิ่งขึ้น รวมทั้งพัฒนาพื้นที่ของอำเภอฮอดให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในอนาคต และขอให้กรมชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปรับปรุงฝายและก่อสร้างอ่างเก็บน้ำให้เร็วที่สุด เนื่องจากในฤดูแล้งต้องสูบน้ำมาใช้ทำการเกษตร ทำให้เสียค่าใช้จ่ายในการสูบน้ำค่อนข้างมาก เมื่อมีอ่างเก็บน้ำประชาชนจะได้มีแหล่งน้ำใช้และประหยัดค่าใช้จ่ายในการทำการเกษตร โดยแบบสอบถามที่ผู้เข้าร่วมประชุมได้แสดงความคิดเห็น พบว่าร้อยละ 90.14 ของผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด เห็นด้วยกับที่ตั้งอ่างเก็บน้ำตามผลการศึกษาที่เสนอ คือ บริเวณห้วยแม่ป่าไผ่
อย่างไรก็ตามยังสามารถสอบถามและเสนอแนะข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ส่วนสิ่งแวดล้อมสำนักบริหารโครงการ กรมชลประทาน 811 ถนนสามเสน แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร 10300 โทรศัพท์/โทรสาร 0 2241 4421 อีเมล์ 1460@mail.rid.go.th, kromchol@mail.rid.go.th บริษัท พี แอนด์ ซี แมเนจเมนท์ จำกัด 125 อาคารเดอะปัณณ์ ชั้น 6 ถนนคลองลำเจียก แขวงนวมินทร์ เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร 10230 โทรศัพท์ : 0-2943-9630-1 โทรสาร 0-29439632
ทั้งนี้สำหรับอ่างเก็บน้ำที่จะเกิดขึ้นแห่งนี้ เพราะด้วยพระมหากรุณาธิคุณ ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (รัชกาลที่ 9) ได้เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรงานโครงการหลวงปางดะ ในเขตอำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ ได้พระราชทานพระราชดำริ เห็นควรให้พิจารณาวางโครงการและก่อสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยแม่ป่าไผ่ เพื่อจัดหาน้ำช่วยเหลือพื้นที่เพาะปลูก ในหมู่บ้านต่างๆ ในเขตอำเภอฮอดที่อยู่ขอบอ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล ให้มีน้ำทำการเพาะปลูกพืชต่างๆ ได้ตลอดทั้งปี เนื่องจากขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค น้ำในลำห้วยต่างๆ แห้งขอด ฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล ราษฎรได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก โดยกรมชลประทาน ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการพิจารณาศึกษาวางแผนโครงการมาเป็นลำดับ ในปี 2552 กรมชลประทานได้ศึกษาเพิ่มเติมและจัดทำรายงานแล้วเสร็จโดยที่ตั้งโครงการ ก่อสร้างปิดกั้นลำห้วยแม่ป่าไผ่ ในตำบลนาคอเรือ ซึ่งได้นำมาตรวจสอบข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อม พบว่า พื้นที่อ่างเก็บน้ำที่ระดับน้ำสูงสุด 656 ไร่ รวมทั้งพื้นที่หัวงานและอาคารประกอบอยู่ในป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่แจ่มและป่าแม่ตื่น ในเขตป่าการอนุรักษ์เพิ่มเติม (โซน C) ดังนั้นโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยแม่ป่าไผ่ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จึงเข้าข่ายประเภทและขนาดโครงการที่ต้องจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) เนื่องจากมีพื้นที่อ่างเก็บน้ำอยู่ในป่าอนุรักษ์เพิ่มเติมมากกว่า 500 ไร่ เป็นต้นไป ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2554 เรื่องการทบทวนการกำหนดประเภท และขนาดของโครงการ ของหน่วยงานรัฐที่ต้องเสนอรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ตามมติคณะรัฐมนตรี เกี่ยวกับป่าอนุรักษ์เพิ่มเติมเพื่อนำเสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาให้ความเห็นก่อนที่จะนำไปประกอบการขออนุญาตใช้พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติจากกรมป่าไม้ เพื่อก่อสร้างโครงการต่อไป
นอกจากนั้นอ่างเก็บน้ำแห่งนี้ จะเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดกลางมีความ 12.24 ล้าน ลบ.ม. พื้นที่เก็บน้ำสูงสุด 656 ไร่ เป็นเขื่อนดินแบ่งโซนการส่งระบายน้ำต่างๆ มีพื้นที่ประโยชน์และกระจายน้ำครอบคลุม 10 หมู่บ้าน ใน ต.นาคอเรือ ครอบคลุมพื้นที่เพาะปลูกกว่า 2 หมื่นไร่ในฤดูฝน และฤดูแล้วกว่า 6 พันไร่ ชาวบ้านในพื้นที่คาดหวังว่า จะได้รับประโยชน์สูงสุด จะมีน้ำกินน้ำใช้ น้ำเพาะปลูกไม่ขาดแคลนน้ำอีกต่อไป ทำให้คุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น เบื้องต้นกรมชลประทานได้เร่งรัดโครงการเพื่อให้แล้วเสร็จเร็วขึ้นในปี 2563-2564 นี้.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น