วิกฤตหมอกควันไฟป่ายังอ่วมทั้งภาคเหนือ "บิ้กป้อม"รุดติดตามสั่งย้ำขันน็อตเข้มแก้เผาป่าให้เร็วก่อนย่ำแย่เพิ่ม

สถานการณ์คุณภาพอากาศ พื้นที่ภาคเหนือยังน่าห่วง กรมควบคุมมลพิษแจ้งเตือน มช.ประกาศปิดการเรียนการสอน 14-15 มี.ค.หวั่นกระทบสุขภาพ "บิ้กป้อม"รุดติดตามสั่งการย้ำทุกพื้นที่เร่งหยุดปัญหาเผาป่า ใช้มาตรการกฏหมายเข้ม ด้านสนามบิน ชม.ยันยังบินปกติยกเว้นที่ มส.บางสายการบินยกเลิกบางช่วงทัศนวิสัยแย่


เชียงใหม่ 14 มี.ค.-เว็ปไซต์กรมควบคุมมลพิษรายงานคุณภาพอากาศช่วงเที่ยงวันของภาคเหนือ 9 จังหวัดที่กำลัง ประสบปัญหาวิกฤตหมอกควัน ฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐานขณะนี้ว่า คุณภาพอากาศ อยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพเพิ่มขึ้น สารมลพิษทางอากาศที่ตรวจพบเกินมาตรฐานได้แก่ ฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ตรวจพบค่าระหว่าง 67 - 200 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (µg/m3) เกินมาตรฐานที่บริเวณ เกินมาตรฐานที่บริเวณต.แม่ปะ อ.แม่สอด ตาก, ต.ในเวียง อ.เมือง น่าน, ต.ห้วยโก๋น อ.เฉลิมพระเกียรติ น่าน, ต.บ้านต๋อม อ.เมือง พะเยา, ต.พระบาท อ.เมือง ลำปาง, ต.สบป้าด อ.แม่เมาะ ลำปาง, ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ ลำปาง, ต.แม่เมาะ อ.แม่เมาะ ลำปาง, ต.บ้านกลาง อ.เมือง ลำพูน, ต.เวียง อ.เมือง เชียงราย, ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย เชียงราย, ต.ช้างเผือก อ.เมือง เชียงใหม่, ต.ศรีภูมิ อ.เมือง เชียงใหม่, ต.สุเทพ อ.เมือง เชียงใหม่, ต.ช่างเคิ่ง อ.แม่แจ่ม เชียงใหม่, ต.นาจักร อ.เมือง แพร่, ต.จองคำ อ.เมือง แม่ฮ่องสอน

ขณะที่ปริมาณฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) ตรวจพบค่าระหว่าง 99 - 243 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (µg/m3) เกินมาตรฐานที่บริเวณ เกินมาตรฐานที่บริเวณต.แม่ปะ อ.แม่สอด ตาก, ต.ในเวียง อ.เมือง น่าน, ต.ห้วยโก๋น อ.เฉลิมพระเกียรติ น่าน, ต.บ้านต๋อม อ.เมือง พะเยา, ต.พระบาท อ.เมือง ลำปาง, ต.สบป้าด อ.แม่เมาะ ลำปาง, ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ ลำปาง, ต.แม่เมาะ อ.แม่เมาะ ลำปาง, ต.บ้านกลาง อ.เมือง ลำพูน, ต.เวียง อ.เมือง เชียงราย, ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย เชียงราย, ต.ช้างเผือก อ.เมือง เชียงใหม่, ต.ศรีภูมิ อ.เมือง เชียงใหม่, ต.นาจักร อ.เมือง แพร่

ผลกระทบจากวิกฤตมลพิษอากาศของภาคเหนือล่าสุด มช. ประกาศหยุดการเรียนการสอน ห่วงสุขภาพบุคลากรนักศึกษา พร้อมงดให้บริการพื้นที่โล่งแจ้งสนามกีฬา ผู้ช่วยศาสตราจารย์อาคม ตันตระกูล ผู้อำนวยการศูนย์สื่อสารองค์กรและนักศึกษาเก่าสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่แจ้งว่า อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ลงนามประกาศ ให้หยุดการเรียนการสอน ระหว่าง 14-15 มีนาคมนี้ เนื่องจากเกรงผลกระทบต่อสุขภาพของบุคลากรและนักศึกษา ในภาวะวิกฤตมลพิษทางอากาศขณะนี้ พร้อมทั้งงดให้บริการพื้นที่โล่งแจ้งเช่น สนามกีฬา รณรงค์ให้บุคลากร นักศึกษาสวมหน้ากากอนามัย จนกว่าสถานการณ์ อยู่ในภาวะปกติหรือปลอดภัย แต่ตลอดสัปดาห์ถึงวันนี้สถานการณ์ก็ยังน่าเป็นห่วง ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก ตั้งแต่ PM 2.5, PM10 ,AQI มีค่าเกินมาตรฐานทุกจังหวัดของภาคเหนือตอนบน คุณภาพอากาศอยู่ในระดับ เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพมากขึ้น ซึ่งทุกพื้นที่ต่างระดมแก้ไขและป้องกัน ผลกระทบที่เกิดขึ้น

ด้านสนามบินเชียงใหม่ก็ยืนยันวิกฤตหมอกควันยังเอาอยู่เที่ยวบินขึ้นลงปกติ ยกเว้น มส.ที่ล่าสุกบางกอกแอร์เวย์งดเที่ยวเช้าทัศนวิสัยแย่ พร้อมเพิ่มความชุ่มชื้นพื้นที่และให้ข้อมูลนักท่องเที่ยวดูแลสุภาพ โดยนาวาอากาศตรี มณธนิก รักงาม ที่ปรึกษา 10 ทอท. รักษาการผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่เปิดเผยว่า ทัศนวิสัยทางการบินยังเป็นปกติ ยกเว้นพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนที่ล่าสุดวันนี้ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ ที่ทำการบินวันละ 2 เที่ยวบินเช้าบ่าย ได้ยกเลิกเที่ยวบินช่วงเช้า เนื่องจากสภาพอากาศปิด ที่แม่ฮ่องสอน ส่วนเส้นทางการบินอื่นๆของท่าอากาศยานเชียงใหม่ภาพรวมยังบินเป็นปกติ ไม่มีผลกระทบ ซึ่งจากที่รัฐบาลมอบนโยบายเร่งด่วน ให้หน่วยงานต่าง ๆ บูรณาการแก้ไขปัญหาวิกฤตหมอกควันและฝุ่นละอองขณะนี้ หนึ่งในมาตรการเฉพาะหน้าคือการเพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศ ทางท่าอากาศยานเชียงใหม่ ก็ได้ให้เจ้าหน้าที่ฉีดพ่นละอองน้ำทั้งพื้นที่นอกเขตการบิน (Landside) วันละ 3 รอบ และในเขตการบิน (Airside) วันละ 2 รอบ โดยเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 13 มีนาคมเป็นต้นไปจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย พร้อมรณรงค์แจ้งข้อมูลข่าวสาร แก่ผู้โดยสารในเรื่องของการดูแลสุขภาพในช่วงเวลาดังกล่าวนี้ด้วย

วันเดียวกัน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางไปราชการที่จังหวัดเชียงใหม่ ได้ใช้โอกาสดังกล่าว ตรวจติดตามสถานการณ์ปัญหาหมอกควันไฟป่าในครั้งนี้ด้วย พร้อมกำชับทุกส่วนราชการ เร่งระดมทรัพยากรทั้งในและนอกพื้นที่ หยุดไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่ภาคเหนือให้เป็นผลโดยเร็ว

พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษก กห. เปิดเผยว่า เมื่อ 14 มี.ค.62 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม.และ รมว.กห.พร้อมคณะ ได้เดินทางไปราชการ  จว.เชียงใหม่ เพื่อรับทราบสถานการณ์การแก้ปัญหาไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือ ณ ค่ายกาวิละ มทบ.33 ต่อจากนั้นได้ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานต่างๆในพื้นที่ โดย พล.อ.ประวิตร ได้กำชับ ขอให้ฝ่ายปกครอง ทหารและตำรวจในพื้นที่ ประสานความร่วมมือกับจิตอาสาทุกภาคส่วน ระดมทรัพยากร เครื่องมือช่างและอากาศยาน ร่วมกันจำกัดและหยุดยั้งไฟป่าในทุกพื้นที่ให้ได้โดยเร็ว โดยขอให้ผู้ว่าราชการทุกจังหวัดที่ประสบกับปัญหา นำการขับเคลื่อนแก้ปัญหาให้เป็นผลถึงระดับพื้นที่  และหากเกินกำลังให้ประสานขอรับการสนับสนุนจากส่วนกลาง เพื่อควบคุมและหยุดยั้งไฟป่า ซึ่งเป็นต้นเหตุของปัญหาหมอกควันในพื้นที่ภาคเหนือโดยรวมพร้อมกันนี้ ขอให้มีมาตรการเชิงรุกเข้มข้นในการควบคุมไม่ให้มีการเผาในที่โล่งในทุกพื้นที่ โดยให้รณรงค์สร้างการตระหนักรู้และการมีส่วนร่วมของประชาชนควบคู่กันไปอย่างต่อเนื่อง ทั้งในการป้องกัน เฝ้าระวังและระงับเหตุอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะห้วงภัยแล้งที่กำลังเกิดขึ้น

อย่างไรก็ตาม วันเดียวกันนี้มีการตรวจพบจุดความร้อน Hotspot จำนวน 324 จุด ตั้งแต่เวลา 02.36 น. จากข้อมูลดาวเทียมระบบ VIIRS ทางเว็ปไซด์ Gistda โดยสามารถดูเพิ่มเติมได้ที่ http://fire.gistda.or.th/download.html) ซึ่งเรียงใน 9 จังหวัดดังนี้ 1. จว.ช.ม. จำนวน 77 จุด 2. จว.พ.ย. จำนวน 61 จุด 3. จว.พ.ร. จำนวน 41 จุด 4. จว.น.น. จำนวน 33 จุด 5. จว.ล.พ. จำนวน 32 จุด 6. จว.ล.ป. จำนวน 25 จุด 7. จว.ม.ส. จำนวน 22 จุด 8. จว.ช.ร. จำนวน 19 จุด และ 9. จว.ต.ก. จำนวน 14 จุด รวมจำนวน 324 จุด โดยขอให้ กกล.รส.จว.ที่มีจุดไฟไหม้ประสานการปฏิบัติกับ จว.และ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องของจังหวัดนั้นๆเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องและรายงาน กองบัญชาการควบคุมสถานการณ์หมอกควันภาคเหนือกองทัพภาคที่ 3 ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราชในวงรอบ 24 ชั่วโมงของทุกวัน ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง.


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

บสย. เผยผลค้ำประกันสินเชื่อปี 61 ยอดค้ำทะลุ 8.8 หมื่นล้านบาท แผนปี 62 ปั้น "New Business Model 2019" ตอบโจทย์ โลกเปลี่ยน ตั้งเป้าค้ำ 1.07 แสนล้านบาท

ม.เกษตรฯโดยวิทยุ ม.ก.คว้ารางวัลองค์กรดีเด่นวงการสื่อของ สวทท.เตรียมเข้ารับพระราชทาน"รางวัลเทพทอง"ของปีนี้

จัดยิ่งใหญ่ครบรอบก่อตั้ง 60 ปีสถานีวิทยุ ม.ก.เชียงใหม่ ปลุกพลังวิถีปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงรับมือโลกแปรปรวน