ป.ป.ช. เชียงใหม่และเครือข่ายทุกภาคส่วน ร่วมเดินหน้าขับเคลื่อนโครงการ STRONG - จิตพอเพียงต้านทุจริตในสังคมไทยให้ยั่งยืนตามยุทธศาสตร์ชาติ

สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดเชียงใหม่และเครือข่ายทุกภาคส่วน ร่วมขับเคลื่อนโครงการ STRONG - จิตพอเพียงต้านทุจริตให้ยั่งยืน

เชียงใหม่ 20 เม.ย.-  ที่หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)จังหวัดเชียงใหม่ นำโดย นายวิวัฒน์ เจริญฉ่ำ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดเชียงใหม่ และเครือข่ายทุกภาคส่วน ร่วมกันเดินหน้าขับเคลื่อนโครงการ STRONG - จิตพอเพียงต้านทุจริต กิจกรรมที่ 3 ในการประชุมร่วมระหว่าง สปจ. โค้ชฯ กรรมการ และสมาชิก เพื่อขยายเครือข่ายเฝ้าระวังรวมถึงการแนะนำให้ความรู้ สร้างความตระหนักในผลเสียหายที่เกิดจากการทุจริต และร่วมกำหนดกิจกรรมป้องกันการทุจริตในพื้นที่ และชุมชนของสมาชิกชมรมฯ (ชมรม Strong - จิตพอเพียงต้านทุจริต จังหวัดเชียงใหม่ จะเดินหน้าอย่างช้าๆ มั่นคง และยั่งยืนเพราะเรามีหัวใจเดียวกัน)

นายวิวัฒน์ ผอ. ป.ป.ช.เชียงใหม่ในฐานะดูแลพื้นที่ภาค 5 เปิดเผยว่า โครงการ Strong จิตพอเพียงต้านทุจริตนี้เป็นโครงการที่มีความสอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยปี 2560 ตามแผนปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตระยะที่ 3 ปี 60-64 และแนวทางการดำเนินงานตามแผนบูรณาการต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ โดยเฉพาะยุทธศาสตร์ที่ 1 ในการสร้างสังคมที่ไม่ทนต่อการทุจริต ภายใต้ 4 กลยุทธ์คือ ปรับฐานความคิดของทุกช่วงวัย ตั้งแต่ปฐมวัยให้สามารถแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนและส่วนรวม กลยุทธ์การส่งเสริมให้มีระบบและกระบวนการกล่อมเกลาทางสังคมเพื่อต้านทุจริต กลยุทธ์ประยุกต์หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นเครื่องมือต้านทุจริตและกลยุทธ์เสริมพลังการมีส่วนร่วมของชุมชน (community) และบูรณาการทุกภาคส่วนเพื่อต่อต้านการทุจริต ซึ่งภายใต้หลักการและเหตุผลของยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตระยะที่ 3 ได้มีการวิเคราะห์ภาพอนาคตของประชาชนและสังคมไทยในระยะ 5 ปีข้างหน้าไว้ว่า หากยุทธศาสตร์ชาติได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนของสังคมไทย ในการนำไปปฏิบัติจริง ประชาชนคนไทยจะมีความตื่นตัวต่อการทุจริตมากขึ้นมีการให้ความสนใจต่อข่าวสารและตระหนักถึงผลกระทบของการทุจริตที่มีต่อประเทศ มีการแสดงออกซึ่งการต่อต้านการทุจริตทั้งในชีวิตประจำวันและ แสดงออกผ่านสื่อสาธารณะสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ ประชาชนทุกภาคส่วน ได้รับกระบวนการกับกล่อมเกลาทางสังคมว่าด้วยการทุจริต ถือเป็นพฤติกรรมที่ออกจากจะเป็นการทำผิดกฎหมายและทำให้เกิดความเสียหายต่อประเทศแล้วยังเป็นพฤติกรรมที่ผิดศีลธรรมจริยธรรมไม่ได้รับการยอมรับจากสังคม ประชาชนจะเริ่มเรียนรู้การปรับเปลี่ยนฐานความคิดที่ทำให้สามารถแยกแยะระหว่างประโยชน์ส่วนตนและส่วนรวมได้ วัฒนธรรมทางสังคมที่มีฐานอยู่บนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงจะหล่อหลอมให้ประชาชนไม่กระทำการทุจริต มีความละอายต่อการทุจริตประพฤติมิชอบ และไม่ยอมให้ผู้อื่นกระทำการทุจริตอันส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อสังคมส่วนรวมด้วย

ทั้งนี้งบประมาณ 2561 เป็นปีแรกที่มีการดำเนินการโครงการ Strong จิตพอเพียงต้านทุจริตตามมติของคณะกรรมการป.ป.ช.ครั้งที่ 904-75/2560 ลงวันที่ 28 กันยายน 2560 เพื่อขับเคลื่อนดำเนินการนำร่องใน 27 จังหวัดใน 9 เขตภาครับผิดชอบของ ป.ป.ช. โดยคัดเลือกจังหวัดที่มีความเข้มแข็งของกลุ่มชุมชนภาคประชาสังคม ซึ่งพื้นที่สำนักงานภาค 5 ได้คัดเลือกไว้ 3 จังหวัดคือเชียงใหม่ เชียงรายและแพร่ ในปีงบประมาณ 2562 มีการกำหนดแนวทางดำเนินงานโดยขยายพื้นที่การดำเนินกิจกรรมให้ครอบคลุมทั้ง 76 จังหวัดและ 1 เขตปกครองท้องถิ่นพิเศษกรุงเทพมหานคร การขยายการสร้าง Coach Strong จิตพอเพียงต้านทุจริตให้ครบทั้ง 77 พื้นที่ขั้นต่ำพื้นที่และอย่างน้อย 10 คนและขยายการตั้งชมรม Strong ให้ครบทั้ง 77 พื้นที่มีสมาชิกขั้นต่ำแต่ละพื้นที่ไม่น้อยกว่า 100 คนโดยสมาชิก ต้องเป็นบุคคลที่เป็นแกนนำในการขับเคลื่อนองค์กรภาคประชาสังคมอื่นๆเพื่อนำกลับไปจัดกิจกรรมและขยายผลต่อแนวคิดในการดำเนินการองค์กรเดิมที่ตนเองอยู่ ตลอดจนมีการดำเนินกิจกรรมโดยชมรมร่วมกับ Coach และสำนักงานป.ป.ช.ประจำจังหวัด ภายใต้แผนงานจิตพอเพียงต้านทุจริต อีกทั้งมีการดำเนินการติดตามและประเมินผลเพื่อนำไปสู่การพัฒนาผลผลิตต่อไป

สำหรับแนวคิดตรองที่เป็นแนวทางในการพัฒนาวัฒนธรรมชุมชน รองศาสตราจารย์ ดร.มาณี ไชยธีรานุวัฒศิริ ที่ปรึกษาประธานคณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นผู้ให้แนวคิด STRONG ประกอบด้วย S- sufficient ความพอเพียง T -Transparent ความโปร่งใส R -Realise ความตื่นรู้ O - Onward มุ่งไปข้างหน้า N - Knowledge ความรู้และ G - Generosity ความเอื้ออาทร ในการจัดประชุมขับเคลื่อนโครงการ Strong ในครั้งนี้จึงเป็นการสร้างความเข้าใจถึงที่มาที่ไปแนวทางของการขับเคลื่อนเพื่อมีเป้าหมายในการร่วมกัน สร้างสังคมให้ปลอดจากการทุจริตอย่างยั่งยืนต่อไป