ผู้ว่าฯเชียงใหม่เรียกถกหน่วยงานเกี่ยวข้องประเมินสถานการณ์น้ำวางแผนรับมือฝนทิ้งช่วง หวั่นวิกฤตหนัก


พ่อเมืองเชียงใหม่เรียกถกหน่วยงานเกี่ยวข้องประเมินสถานการณ์น้ำและฝนทิ้งช่วง ปรับแผนจัดการน้ำรับมือถึงแล้งหน้า หวั่นวิกฤตหนัก กำชับทำความเข้าใจกับเกษตรกรให้ทราบข้อมูลอย่างต่อเนื่อง

เชียงใหม่ 20 ก.ค. – ที่ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ สำนักชลประทานที่ 1 เชียงใหม่ นายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้เรียกประชุมวางแผนและติดตามการบริหารจัดการน้ำฤดูฝน ปี 2562 ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และพื้นที่ลุ่มน้ำปิงตอนบน โดยมี นายคมสัน สุวรรณอัมพา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยผู้บริหารหน่วยงานสังกัดกรมชลประทาน หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้แทน มทบ.33 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำในภาพรวมอย่างใกล้ชิดหลังจากเกิดภาวะฝนทิ้งช่วงทำให้มีผลต่อฤดูการเพาะปลูกและปริมาณน้ำกักเก็บ
นายจานุวัตร เลิศศิลป์เจริย ผอ.สำนักชลประทานที่ 1 รายงานภาพรวมว่า ในปีนี้แม้จะเป็นช่วงฤดูฝน แต่จังหวัดเชียงใหม่และอีกหลายจังหวัดมีฝนตกน้อยกว่าปีที่ผ่านมา และน้อยกว่าค่าเฉลี่ยมาก ทำให้ปริมาณน้ำเก็บกักมีน้อย ซึ่งได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวัง และทำความเข้าใจกับเกษตรกรและประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ปลูกข้าว ในช่วงนี้ขอให้ชะลอการปลูกไว้ก่อน ส่วนกระชังปลา ขอให้ชะลอการเลี้ยง ขณะที่ไม้ผล ไม้ยืนต้น ให้เฝ้าระวังและบริหารจัดการเรื่องน้ำอย่างเหมาะสม ขณะนี้ปริมาณน้ำในเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล มีน้ำเหลืออยู่ 77 ล้าน ลบ.ม.หรือร้อยละ 29 โดยไม่มีน้ำไหลเข้าเขื่อนเลย ส่วนเขื่อนแม่กวงอุดมธารา มีน้ำ 45 ล้าน ลบ.ม.หรือร้อยละ 17 ของความจุเขื่อนมีน้ำไหลเข้า 1.2 หมื่น ลบ.ม.ทำให้สำนักชลประทานที่ 1 เชียงใหม่ ต้องวางแผนการใช้น้ำเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาแย่งน้ำโดยเฉพาะกลุ่มเกษตรกรและผู้ใช้น้ำในชุมชน พร้อมขอความร่วมมือในการร่วมประหยัดน้ำ เพราะแม้ปีปริมาณน้ำจะมากกว่าเมื่อครั้งวิกฤติปี 2558 แต่ก็ยังถือว่าน้อย
ทั้งนี้ หากมีฝนตกในช่วงเดือน ส.ค. และ ก.ย.ตามการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยาเชื่อว่า สถานการณ์ภัยแล้งใน จ.เชียงใหม่ และ จ.ลำพูน จะคลี่คลายลง และช่วยเพิ่มปริมาณน้ำในเขื่อนมากขึ้น แต่หากยังไม่มีฝนตกอีกผลกระทบอาจใกล้เคียงปี 2558 เพราะมีความจำเป็นต้องสำรองน้ำไว้สำหรับการอุปโภค-บริโภคเป็นหลัก และงดจ่ายให้พื้นที่ภาคเกษตรกรรม ล่าสุดขณะนี้ฝายน้ำ 13 แห่งตลอดแนวแม่น้ำปิงยังสามารถกักเก็บน้ำไว้ได้บางส่วน แต่ก็ถือว่าน้อยเนื่องจากแม่น้ำปิงเริ่มแห้งขอด ปริมาณน้ำน้อยกว่าค่าเฉลี่ยมาก สำหรับข้อมูลการใช้น้ำดิบเพื่อผลิตน้ำประปาแจกจ่ายให้กับประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่และลำพูน ของการประปาส่วนภูมิภาค ซึ่งมีทั้งหมด 8 สถานี ปัจจุบันต้องใช้น้ำถึง 1.02 ล้าน ลบ.ม.ต่อสัปดาห์ ดังนั้นน้ำของทั้ง 2 เขื่อนรวมกันจึงเหลืออยู่ 122 ล้านลบ.ม.ซึ่งนโยบายหลักของชลประทานคือต้องเก็บน้ำไว้ใช้อุปโภค-บริโภคเป็นหลัก รองลงมาคือรักษาระบบนิเวศน์หากเหลือก็ค่อยจ่ายให้เกษตรกรได้ใช้
ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่กล่าวว่า ขณะนี้ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ทั้งเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล และเขื่อนแม่กวงอุดมธารา มีปริมาณน้ำน้อย ซึ่งเจ้าหน้าที่ชลประทานจังหวัด และหน่วยงานสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในจังหวัด ได้ลงพื้นที่ให้ข้อมูลสถานการณ์น้ำ และทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่อง ส่วนการประกาศพื้นที่ประสบภัยแล้งของจังหวัดขณะนี้ยังไม่มีการประกาศ เนื่องจากต้องได้รับรายงานผลกระทบจากพื้นที่ก่อน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังอยู่ในช่วงฤดูฝน ซึ่งคาดว่าหากมีฝนตกจะทำให้สถานการณ์คลี่คลายลง แต่เพื่อความไม่ประมาท ได้ให้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบข้อมูลสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องไม่ให้วิตก พร้อมขอความร่วมมือใช้น้ำอย่างประหยัด เพื่อลดผลกระทบในเรื่องต่างๆ นอกจากนี้ ให้พิจารณาใช้น้ำใต้ดินเพื่อบรรเทาปัญหา และศูนย์ป้องกันแก้ไขปัญหาของจังหวัดและในทุกอำเภอ ต้องตรวจสอบและส่งต่อข้อมูลให้ประชาชนรับทราบอย่างถูกต้อง รวดเร็ว
ขณะที่ นายคมสัน สุวรรณอัมพา รองผู้ว่าราชการจังหวัดฯ เน้นย้ำ ให้ ปภ.รวบรวมข้อมูลจากทุกหน่วย เพื่อบูรณาการการทำงาน พร้อมทั้งดูแลน้ำอุปโภคบริโภค รวมทั้งพื้นที่การเกษตร ที่ต้องทำความเข้าใจกับเกษตรกร ให้งดการปลูกใหม่ในช่วงนี้ เพราะหากได้รับความเสียหาย ทางราชการไม่สามารถให้ความช่วยเหลือได้ พร้อมทั้งให้ศูนย์ฯ จังหวัด และศูนย์ฯ อำเภอ รายงานข้อมูลสถานการณ์ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ทราบอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที ซึ่งเชื่อว่าทุกหน่วยติดตามสถานการณ์ใกล้ชิดเพื่อบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นเต็มที่ เช่นเดียวกับทางหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงก็วิเคราะห์สภาพอากาศเพื่อทำฝนเทียมทันทีเมื่อมีโอกาส ซึ่งได้กำชับไปทุกพื้นที่แล้ว.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

บสย. เผยผลค้ำประกันสินเชื่อปี 61 ยอดค้ำทะลุ 8.8 หมื่นล้านบาท แผนปี 62 ปั้น "New Business Model 2019" ตอบโจทย์ โลกเปลี่ยน ตั้งเป้าค้ำ 1.07 แสนล้านบาท

ม.เกษตรฯโดยวิทยุ ม.ก.คว้ารางวัลองค์กรดีเด่นวงการสื่อของ สวทท.เตรียมเข้ารับพระราชทาน"รางวัลเทพทอง"ของปีนี้

จัดยิ่งใหญ่ครบรอบก่อตั้ง 60 ปีสถานีวิทยุ ม.ก.เชียงใหม่ ปลุกพลังวิถีปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงรับมือโลกแปรปรวน