องคมนตรีประชุมติดตามงานมูลนิธิโครงการหลวงประจำเดือนมีนาคม
องคมนตรี กรรมการบริการมูลนิธิโครงการหลวงประชุมติดตามงานประจำเดือนมีนาคม
นายจรัลธาดา กรรณสูต องคมนตรี ประธานกรรมการมูลนิธิโครงการหลวง และ พลเอก กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิโครงการหลวง ประชุมติดตามการดำเนินงานของมูลนิธิโครงการหลวง ประจำเดือนมีนาคม 2564
เมื่อวันที่10 มีนาคม 2564 เวลา 09.00 น. นายจรัลธาดา กรรณสูต องคมนตรี ประธานกรรมการมูลนิธิ
โครงการหลวง และ พลเอก กัมปนาท รุดดิษฐ์ ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิโครงการหลวง เดินทางไปร่วมประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองและขับเคลื่อนการปฏิบัติงานตามนโยบาย ครั้งที่ 5/2564 ณ ห้องชัยพฤกษ์ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ จังหวัดเชียงใหม่ ทั้งนี้องคมนตรีได้รับฟังความก้าวหน้าการพัฒนาปัจจัยพื้นฐาน โดยในพื้นที่ของสถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นเขตต้นน้ำที่สำคัญ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้นำระบบสมาร์ท ไมโครกริด (Smart MicroGrid) ซึ่งเป็นระบบไฟฟ้าชุมชนแบบอัจฉริยะ ที่ผสมผสานระหว่างไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงและไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนมาใช้ในพื้นที่ โดยนำพลังงานน้ำจากน้ำตกสิริภูมิไปผลิตกระแสไฟฟ้า วัตถุประสงค์หลักเพื่อ รองรับกรณีไฟฟ้าหลักเกิดปัญหา และยังรองรับงานพัฒนาส่งเสริมอาชีพของสถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ รวมทั้งผันน้ำไปใช้ในบ่อเลี้ยงปลาเทร้าต์ ปลาสเตอร์เจี้ยน ในหน่วยวิจัยประมงที่สูงดอยอินทนนท์อีกด้วย ระบบสมาร์ทไมโครกริดนี้สามารถผลิตไฟฟ้าได้จำนวน 210 กิโลวัตต์ ให้พลังงานไฟฟ้า 1,000,000 กิโลวัตต์ ต่อชั่วโมงต่อปี จึงเป็นประโยชน์ต่อทั้งราษฎรในชุมชน และการพัฒนางานในพื้นที่
นอกจากนี้ องคมนตรียังได้ติดตามความก้าวหน้าการดำเนินความช่วยเหลือราษฎรในเขตพื้นที่ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงเลอตอ อ.แม่ระมาด จ. ตาก ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงสำคัญในรัชกาลปัจจุบัน ที่นำรูปแบบและแนวทางโครงการหลวงโมเดลซึ่งได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มาพัฒนาอาชีพเพื่อแก้ปัญหาการปลูกฝิ่น ความยากจน รวมทั้งการเพิ่มพื้นที่สีเขียว ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงเลอตอได้เร่งจัดทำแปลงสาธิตในพื้นที่ตั้งของศูนย์ เพื่อเป็นตัวอย่างแก่เกษตรกร และเป็นจุดถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยี ซึ่งจะนำไปสู่ความสำเร็จในการพัฒนาอาชีพตามเป้าหมายได้โดยเร็ว และขณะนี้ ได้มีการดำเนินโครงการวิจัยและพัฒนาการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และใช้ประโยชน์ความหลากหลายทางชีวภาพเพื่อเป็นธนาคารอาหารชุมชนบนพื้นที่สูง ร่วมกับสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง โดยการคัดเลือกชนิดพืชที่เหมาะสมต่อการปลูกฟื้นฟูแหล่งอาหาร เน้นขนิดพืชที่เป็นความต้องการของชุมชน พืชที่ใกล้สูญหาย และพืชที่มีศักยภาพในการต่อยอดเพื่อเสริมรายได้แก่ครัวเรือน ซึ่งมีจำนวนพืช 26 ชนิด อาทิ เนียง มะขามป้อม สมอไทย สะตอ เต่าร้าง หวาย ลิงลาว ตองหอม เผือกหอม ที่จะจัดเตรียมต้นกล้าพันธุ์สนับสนุนการจัดทำแปลงตัวอย่างต่อไป
ทั้งนี้กลยุทธ์สำคัญที่นำสู่ความสำเร็จในการสร้างอาชีพของมูลนิธิโครงการหลวง คือ งานวิจัย เพื่อให้การผลิตพืชมีคุณภาพ เหมาะสมกับบริบทของแต่ละพื้นที่ มูลนิธิโครงการหลวงจึงมุ่งเน้นงานวิจัยที่ตรงตามความต้องการ ความจำเป็น การประหยัด สามารถต่อยอดไปใช้ประโยชน์ได้จริง ตลอดจนเปิดโอกาสแก่นักวิจัยรุ่นใหม่ ขณะนี้มูลนิธิโครงการหลวงมุ่งวิจัยเพื่อการปรับปรุงพันธุ์พืช/สัตว์ให้เหมาะสมระบบภูมินิเวศบนพื้นที่สูง การวิจัยเทคโนโลยีการผลิตพืช/สัตว์ในระบบเกษตรแม่นยำ และ Smart Farm ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การจัดทำ Guide line ชุมชนตามหลัก SDGs และคาร์บอนต่ำ รวมทั้งการใช้ประโยชน์จากพันธุกรรมและความหลากหลายทางชีวภาพ สำหรับการศึกษาวิจัยและพัฒนากัญชง หรือเฮมพ์ ตามพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพระพันปีหลวง มูลนิธิโครงการหลวงได้ร่วมกับสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง พัฒนาพันธุ์กัญชงแล้ว จำนวน 4 พันธุ์ ซึ่งอยู่ระหว่างการขอขึ้นทะเบียนพันธุ์ และมีแผนปรับปรุงพันธุ์กัญชง เพื่อให้มีสาร CBD ที่มีสรรพคุณทางยาที่เหมาะสม พัฒนาระบบการปลูกที่เหมาะสมต่อการใช้ประโยชน์ในการสกัดสาร CBD ตลอดจนศึกษาต้นทุนและความคุ้มค่าของการใช้ประโยชน์ และการแปรรูปกัญชง.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น