ชาวเชียงใหม่​เซ็งใกล้ฉลองสงกรานต์​725ปีแต่ต้องมาวิตกโควิด-19อีกหลัง4หนุ่มนักธุรกิจติดเชื้อจากสถานบัน​เทิงกทม.เข้ามา

เชียงใหม่ต้องขันน๊อ​ตมาตรการเข้มอีกรอบ หลังพบผู้ป่วยโควิดใหม่ 4 ราย จากที่ปลอดมา83วันทั้งหมดล้วนเชื่อมโยงสถานบันเทิงที่กรุงเทพฯ เร่งสอบผู้สัมผัสเสี่ยง​ เตรียมสั่งทุกร้านจำกัดให้ดื่มได้แค่ 5 ทุ่ม​ตลอดเมษายนนี้ ชาวเชียงใหม่​ต้องเซ็งรับสงกรานต์​
เชียงใหม่​ 5 เม.ย. - ช่วงค่ำที่ศูนย์ข้อมูลข่าวสารเฉพาะกิจจังหวัดเชียงใหม่ คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ โดย นายวีระพันธ์ ดีอ่อน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และ นพ.จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ แถลงข่าวยืนยันพบผู้ติดเชื้อ​โควิด -19 รายใหม่อีก​ 4​ รายในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่​ รองผู้ว่า​ฯ​เชียงใหม่​ระบุว่า เบื้องต้นคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่มีมติให้มีการยกระดับการควบคุม ป้องกันโรคเพิ่มขึ้น อาทิ การจัดขบวนแห่ อนุญาตให้เฉพาะวัฒนธรรมจังหวัด ดำเนินงาน คนร่วมขบวนไม่เกิน 200 นอกนั้นไม่อนุญาต ผู้ร่วมงาน ผู้ชมต้องสวมหน้ากาก 100% สำหรับสถานบริการ และสถานประกอบการที่มีลักษณะคล้าย และร้านอาหารที่มีการจำหน่ายสุรา ให้เปิดจำหน่าย และบริโภคสุรา ได้ไม่เกิน 23.00 น. โดยให้มีผลตั้งแต่ วันที่ 6 - 30 เม.ย. 64 พร้อมกันนี้มีการประกาศพื้นที่สี่เหลี่ยมรอบคูเมืองให้เป็นพื้นที่ควบคุมการแพร่ระบาดโรค COVID-19 ต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด รวมถึงสถานประกอบการ สถานบริการต้องปรับปรุงเรื่องระบบระบายอากาศ พร้อมกันนี้ได้แจ้งให้ ศปก.ทุกระดับ ออกตรวจสถานที่เสี่ยงหากพบว่าไม่มีมาตรการป้องกันโรค ให้เสนอคณะกรรมการโรคติดต่อ เพื่อพิจารณาสั่งปิดสถานที่ดังกล่าว
ด้าน นพ.จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ แจงว่า การพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ของจังหวัดเชียงใหม่ ทั้ง 4 ราย เป็นผู้ที่มีประวัติเดินทางไปยังสถานบันเทิงในย่านรัชดา กรุงเทพฯและนนทบุรี ที่พบการระบาดของโรคโควิด-19 ตามที่ทางกรมควบคุมโรคได้ประกาศไว้ โดยผู้ป่วยรายที่ 1 เป็นชายไทย อายุ 34 ปี ภูมิลำเนาอำเภอเมืองเชียงใหม่ ประกอบธุรกิจส่วนตัว ประวัติเดินทางไปสถานบันเทิงย่านรัชดา กทม. เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2564 พร้อมกับเพื่อน 4 คน ก่อนจะแยกตัวเดินทางกลับมาจังหวัดเชียงใหม่ ผู้ป่วยรายนี้ได้เดินทาง โดยเที่ยวบิน VZ2104(สุวรรณภูมิ-เชียงใหม่) วันที่ 31 มีนาคม 2564 เวลา 17.30 น. ที่นั่ง 19F เข้าพักที่บ้านพักส่วนตัว และในวันที่ 1 มีนาคม ได้รับข่าวการระบาดที่สถานบันเทิงในกรุงเทพฯ จึงได้แยกกักตัวเอง ต่อมาจึงเข้ารับการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในวันที่ 4 เมษายน 2564 มีอาการไข้ ไม่ไอ ไม่มีน้ำมูก ผลยืนยันพบเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เข้ารักษาตัวที่ห้องแยกความดันลบ โรงพยาบาลนครพิงค์ ผู้ป่วยรายที่ 2 เป็นชายไทย อายุ 26 ปี ภูมิลำเนาอำเภอเมืองเชียงใหม่ ประกอบธุรกิจส่วนตัว ประวัติเดินทางไปสถานบันเทิงย่านรัชดา กทม. พร้อมกับผู้ป่วยรายที่ 1 และได้เดินทางกลับเชียงใหม่ โดยรถยนต์ส่วนตัว พร้อมเพื่อนอีก 3 คนที่ไปเที่ยวในสถานบันเทิงเดียวกัน เมื่อเดินทางมาถึงเชียงใหม่ ในวันที่ 1-2 เมษายน ได้รับข่าวการระบาดในสถานบันเทิง กทม. จึงได้แยกกักตัวในห้องพักส่วนตัวเพียงคนเดียว และเข้ารับการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในวันที่ 4 เมษายน ไม่มีอาการ ผลยืนยันพบเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เข้ารักษาตัวที่ห้องแยกความดันลบ โรงพยาบาลนครพิงค์ ผู้ป่วยรายที่ 3 ชายไทย อายุ 34 ปี ภูมิลำเนาอำเภอเมืองเชียงใหม่ ซึ่งเป็นผู้ร่วมเดินทางกับผู้ป่วยรายที่ 2 เดินทางไปและกลับด้วยรถยนต์ส่วนตัวพร้อมกัน หลังจากกลับมาถึงเชียงใหม่ได้พักในบ้านพักส่วนตัวขวกับแฟนสาว และในวันที่ 4 เมษายน เข้ารับการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ไม่มีอาการ ผลตรวจยืนยัน เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2564 พบเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เข้ารักษาตัวที่ห้องแยกความดันลบ โรงพยาบาลนครพิงค์ สำหรับเพื่อนอีก 2 คนที่เดินทางไปด้วยกัน ได้เข้ารับการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ผลตรวจยืนยันไม่พบเชื้อ ทีมสวบสวนโรคสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ได้ลงพื้นที่สอบสวนโรค ค้นหาผู้สัมผัส พบผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูง 32 ราย(ผู้สัมผัสในครอบครัว 6 ราย , ผู้สัมผัสในชุมชน 3 ราย) และผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 99 ราย(ผู้สัมผัสบนเครื่องบิน) รวม 131 ราย ทางทีมสอบสวนโรคได้ติดตามและนัดตรวจหาเชื้อในบ่ายวันนี้ ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลตรวจ สำหรับผู้ป่วยรายที่ 4 ชาย สัญชาติจีน อายุ 28 ปี อาศัยในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ มีประวัติเดินทางไปท่องเที่ยวในจังหวัดนนทบุรี เป็นเวลา 7 วัน หลังเดินทางกลับเชียงใหม่ โดยมีไทม์ไลน์ ดังนี้ วันที่ 1 เมษายน 2564 ด้วยเที่ยวบิน FD4116 เวลา 18.20 น. (สุวรรณ​ภูมิ- เชียงใหม่) เข้าบ้านพักส่วนตัวกับภรรยา ช่วงเย็นเดินทางไปรับประทานอาหารปิ้งย่าง วันที่ 2 เมษายน 2564 เดินทางไปรับประทานอาหารใกล้สนาบิน และทานอาหารเย็นที่ตลาดทิพย์เนตร วันที่ 3 เมษายน 2564 เดินทางไปเซ็นทรัลเฟสติวัล ตลาดทิพย์เนตร กาดมณี​ วันที่ 4 เมษายน 2564 เดินทางไปรับประทานอาหารใกล้สนามบิน และเริ่มมีอาการไข้ต่ำๆ ไอ เจ็บคอ ไม่มีน้ำมูก จมูกได้กลิ่น จึงได้เข้าขอรับการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ วันที่ 5 เมษายน 2564 ผลตรวจยืนยันพบเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลนครพิงค์ ขณะนี้อยู่ระหว่างสอบสวนโรคและค้นหาผู้สัมผัสใกล้ชิดเพิ่มเติม นายแพทย์จตุชัย กล่าวอีกว่า การพบผู้ป่วยโควิด-19 ทั้ง 4 รายนี้ เป็นการนำเชื้อเข้ามาในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ขณะนี้ยังไม่พบการระบาดในจังหวัดเชียงใหม่ อย่างไรก็ตามจังหวัดเชียงใหม่ ได้มีการยกระดับมาตรการของจังหวัดในระดับสูงสุด เพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน ทั้งนี้ขอความร่วมมือประชาชนร่วมมือกันป้องกันตนเอง และปฏิบัติตนตามมาตรการต่าง ๆ อย่างเคร่งครัด สำหรับนักท่องเที่ยวและผู้ที่เดินทางเข้ามาในจังหวัดเชียงใหม่ ให้ทำปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันควบคุมโรคของจังหวัดเชียงใหม่อย่างเคร่งครัด​ พร้อมขอให้ผู้ที่ไปเที่ยวในสถานบันเทิงดังกล่าวตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นไป หากมีอาการผิดปกติให้ไปโรงพยาบาลเพื่อรับการตรวจหาเชื้อ หากมีความกังวลขอรับคำปรึกษาได้ที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน หรือติดต่อที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ 053-211048-50, 084-8052121 จากข่าวที่พบผู้ป่วยรายใหม่ 4 รายล่าสุดนี้ทำให้ชาวเชียงใหม่ต่างวิตกกังวลและวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมาก​ โดยเฉพาะ​กลุ่มผู้ที่ติดเชื้อที่นำเข้ามาในพื้นที่และล้วนเป็นนักท่องราตรี ในขณะที่ชาวบ้านต่างเฝ้าระวังกันอย่างดีมาตลอดและเตรียมเฉลิมฉลองเข้าสู่เทศกาลสงกรานต์ไม่กี่วันนี้​รวมทั้งเริ่มประกอบอาชีพกันเศรษฐ​กิจกำลังจะดีขึ้นก็ต้องมารับผลกระทบ​อีกครั้ง โดยที่เชียงใหม่ก็ปลอดผู้ติดเชื้อมา 83 วันจนถึงวันนี้ ทำให้หลายคนร้องขอความเป็นธรรมกับผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยง ต้องแสดงความรับผิดชอบมีสำนึกต่อสังคมให้มากกว่านี้

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

บสย. เผยผลค้ำประกันสินเชื่อปี 61 ยอดค้ำทะลุ 8.8 หมื่นล้านบาท แผนปี 62 ปั้น "New Business Model 2019" ตอบโจทย์ โลกเปลี่ยน ตั้งเป้าค้ำ 1.07 แสนล้านบาท

ม.เกษตรฯโดยวิทยุ ม.ก.คว้ารางวัลองค์กรดีเด่นวงการสื่อของ สวทท.เตรียมเข้ารับพระราชทาน"รางวัลเทพทอง"ของปีนี้

จัดยิ่งใหญ่ครบรอบก่อตั้ง 60 ปีสถานีวิทยุ ม.ก.เชียงใหม่ ปลุกพลังวิถีปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงรับมือโลกแปรปรวน