กรมชลฯเผยผลศึกษาผันน้ำยวมเพิ่มน้ำเขื่อนภูมิพลงบเบื้องต้น7.1หมื่นล้านแก้แล้งยั่งยืน

กรมชลฯเผยผลการศึกษาฯ “โครงการเติมน้ำเขื่อนภูมิพล”ปีละ​ 1.8 พันล้าน​ ลบ.ม. แก้ภัยแล้งในพื้นที่ภาคกลางอย่างยั่งยืน​ งบเบื้องต้น​ 7.1หมื่นล้าน เชียงใหม่​ 29​ ก.ค.- นายสุรชาติ มาลาศรี ผู้อำนวยการสำนักบริหารโครงการ กรมชลประทาน เปิดเผยผลการศึกษาเพิ่มปริมาณ​น้ำให้เขื่อนภูมิพลผ่านเฟสบุ๊ค​ไลฟ์ต่อสื่อวันนี้ว่า ด้วยปริมาณน้ำท่าในแม่น้ำยวม ในแต่ละปีมีปริมาณมากก่อนจะไหลลงสู่แม่น้ำเมยและแม่น้ำสาละวิน ออกสู่ทะเลอันดามัน โดยเปล่าประโยชน์ กรมชลประทาน จึงได้ศึกษาหาแนวทางนำน้ำส่วนนี้ไปเติมในเขื่อนภูมิพล ซึ่งผลการศึกษาสรุปว่า ต้องสร้างเขื่อนในแม่น้ำยวม เหนือจุดบรรจบแม่น้ำเมยทางด้านเหนือน้ำประมาณ 13.8 กม. ตั้งอยู่ที่บ้านแม่ละนา ตำบลท่าสองยาง อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก ความจุประมาณ 69 ล้าน ลบ.ม. พร้อมกับก่อสร้างสถานีสูบน้ำที่บ้านสบเงา เพื่อสูบน้ำจากเขื่อนน้ำยวมเข้าอุโมงค์ส่งน้ำ ขนาด 8.1- 8.3 เมตร ความยาวประมาณ 62 กิโลเมตร ไปเติมลงในเขื่อนภูมิพล รวมไปถึงการปรับปรุงลำน้ำแม่งูด ระยะทางราว 2 กิโลเมตร รวมค่าก่อสร้างประมาณ 71,110 ล้านบาท สำหรับการผันน้ำจากเขื่อนน้ำยวมไปเขื่อนภูมิพลหากดำเนินการเสร็จแล้ว จะดำเนินการผันน้ำในช่วงฤดูฝน ซึ่งจะเริ่มในช่วงเดือนมิถุนายนไปจนถึงเดือนมกราคม สามารถเติมน้ำในเขื่อนภูมิพลได้ปีละประมาณ 1,800 ล้านลูกบาศก์เมตร ในช่วงฤดูแล้งระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนพฤษภาคม จะไม่มีการผันน้ำเนื่องจากปริมาณน้ำในแม่น้ำยวมมีน้อย ทั้งนี้ จะมีการระบายน้ำจากเขื่อนน้ำยวมเท่ากับปริมาณน้ำตามสภาพธรรมชาติในแม่น้ำยวมในแต่ละช่วง เพื่อรักษาระบบนิเวศด้านท้ายน้ำด้วย ซึ่งปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้นในเขื่อนภูมิพล จะช่วยให้การเพาะปลูกพืชในช่วงฤดูแล้งเพิ่มขึ้นราว 1.6 ล้านไร่ มีน้ำอุปโภค-บริโภคเพิ่มขึ้นปีละ 300 ล้านลูกบาศก์เมตร เพิ่มพลังงานไฟฟ้าที่โรงไฟฟ้าเขื่อนภูมิพลได้ปีละ 417 ล้านหน่วย นอกจากนี้ ยังเกิดแหล่งเพาะพันธุ์ปลาและการท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่เขื่อนน้ำยวม ที่สำคัญจะช่วยเพิ่มปริมาณการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาได้ประมาณ 20 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และเมื่อมีการเติมน้ำในเขื่อนภูมิพลแล้ว จะทำให้ปริมาณน้ำต้นทุนของแม่น้ำปิงมีความมั่นคงมากยิ่งขึ้น สอดรับกับการปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาท่อทองแดง จังหวัดกำแพงเพชร ที่สามารถส่งน้ำไปหล่อเลี้ยงพื้นที่เกษตรกรรมกว่า 550,000 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ 2 จังหวัด 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอไทรงาม อำเภอพรานกระต่าย อำเภอเมือง อำเภอลานกระบือ จังหวัดกำแพงเพชร และอำเภอคีรีมาศ อำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย ทั้งนี้ปัจจุบันโครงการเติมน้ำเขื่อนภูมิพล ได้ศึกษารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ EIA เสร็จเรียบร้อยแล้ว และได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมฯ (คชก.) แล้ว เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา จากนี้ไปกรมชลประทานจะดำเนินการส่งรายงานให้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (กก.วล.) เพื่อพิจารณาเห็นชอบโครงการฯ ตามขั้นตอน​ต่อไป.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

บสย. เผยผลค้ำประกันสินเชื่อปี 61 ยอดค้ำทะลุ 8.8 หมื่นล้านบาท แผนปี 62 ปั้น "New Business Model 2019" ตอบโจทย์ โลกเปลี่ยน ตั้งเป้าค้ำ 1.07 แสนล้านบาท

ม.เกษตรฯโดยวิทยุ ม.ก.คว้ารางวัลองค์กรดีเด่นวงการสื่อของ สวทท.เตรียมเข้ารับพระราชทาน"รางวัลเทพทอง"ของปีนี้

จัดยิ่งใหญ่ครบรอบก่อตั้ง 60 ปีสถานีวิทยุ ม.ก.เชียงใหม่ ปลุกพลังวิถีปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงรับมือโลกแปรปรวน