เชียงใหม่สรุปผลเปิดเรียน On site พบมีติดเชื้อ 878ราย เดินหน้าให้เปิดปกติพร้อมย้ำมาตรการรับมือเข้ม Covid Free Setting
เชียงใหม่เดินหน้าให้ ร.ร.เปิดปกติ On site เกือบครบทุกแห่งพร้อมให้วัคซีนนักเรียนตามเกณฑ์สมัครใจ ย้ำมาตรการเข้มรับมือโควิด-19 หลังเปิด On site พบครู-นร.ติดเชื้อสะสม 878 ราย
เชียงใหม่ 2 ก.พ.- นางยุพิน บัวคอม ศึกษาธิการจังหวัดเชียงใหม่เผยว่าสถานศึกษาในจังหวัดเชียงใหม่ทั้งหมด 1,241 แห่ง ได้ผ่านการพิจารณาอนุญาตให้เปิดเรียน
ในรูปแบบปกติ (On Site) จากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ข้อมูลวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 จำนวน 844 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 68.01 สถานศึกษาที่ยังไม่เปิดการเรียนในรูปแบบปกติ (On Site) 397 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 31.99 แยกเป็นโรงเรียนเอกชนนอกระบบ 147 แห่ง และ โรงเรียนสังกัดหน่วยงานการศึกษาอื่น 250 แห่ง
สำหรับข้อมูลการติดตาม การเปิดเรียนของสถานศึกษาจังหวัดเชียงใหม่ที่ได้รับการพิจารณาให้เปิดแบบ On Site เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2565 พบว่า สถานศึกษาที่ได้รับอนุญาตให้เปิดเรียน On Site 784 แห่ง ตอบแบบติดตามการเปิดเรียนๆ 530 แห่ง มีการคัดกรองด้วยการตรวจ ATK ก่อนเข้าสถานศึกษา 506 แห่ง นักเรียน ครูและบุคลากรในสถานศึกษา ได้รับการตรวจ ATK 88,163 คน พบผู้มีผลบวก 159 คน คิดเป็นร้อยละ 0.18 ส่วนข้อมูลครู นักเรียน และบุคลากรที่ติดเชื้อ COVID - 19นักเรียนที่ติดเชื้ออยู่ระหว่างการรักษา 406 คน ครูและบุคลากร 75 คน ข้อมูลนักเรียนที่ติดเชื้อสะสม 716 คน ครูและบุคลากรในสถานศึกษาที่ติดเชื้อสะสม 162 คน รวมทั้งสิ้นสะสม 878 คนค้ารักษาตัวอยู่ 481 คน
ทั้งนี้สถานศึกษาที่พบเมื่อพบผู้ติดเชื้อ หรือผู้เสี่ยงสูงก็จะดำเนินการตามแผนเผชิญเหตุของสถานศึกษาในกรณีที่พบผู้ติดเชื้อในห้องเรียน 1 คน ได้ปิดเฉพาะห้องเรียนที่พบผู้ติดเชื้อ จำนวน 33 แห่ง มีการปิดทั้งโรงเรียนเนื่องจากพบผู้ติดเชื้อมากกว่าหนึ่งห้องเรียน จำนวน 28 แห่ง และยังมีสถานศึกษาที่ได้รับอนุญาตแล้วแต่ยังไม่ได้เปิดเรียนแบบ On Site โดยใช้รูปแบบอื่นแทน 3 แห่ง ส่วนที่เหลืออีก 466 แห่ง ก็ยังเปิดการเรียนในรูปแบบปกติ(On Site) ซึ่งสถานศึกษาส่วนใหญ่จะเรียนด้วยวิธีผสมผสาน ไม่มีวิธีใดวิธีหนึ่งโดยเฉพาะ เพราะต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของครูและนักเรียนเป็นสำคัญ
เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ได้คลี่คลายและจำนวนผู้ติดเชื้อลดลง จังหวัดเชียงใหม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคได้และเพื่อโอกาสในการเรียนรู้ของผู้เรียนอย่างมีคุณภาพ คณะทำงานติดตามและประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคCOVID- 19 จึงได้พิจารณาผ่อนคลายมาตรการปลอดภัยสำหรับองค์กร
(COVID Free Setting) ในสถานศึกษาของศูนย์อนามัยที่ 1 เชียงใหม่ ให้สถานศึกษาที่ยังไม่เปิดการเรียนในรูปแบบปกติ (On Site) 250 แห่ง ดำเนินการจัดการเรียนการสอนในรูปแบบปกติ (On Site) โดยปฏิบัติตามเงื่อนไข ดังนี้
1)ครูและบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษาได้รับวัคซีนร้อยละ 85 โดยปฏิบัติตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง หลักเกณฑ์การเปิดโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 34) และปฏิบัติตาม
มาตรการปลอดภัยสำหรับองค์กร (COVID Free Setting)ของศูนย์อนามัยที่ 1 เชียงใหม่ โดยให้หน่วยงานการศึกษาต้นสังกัด เป็นผู้กำกับ ติดตาม
2) รูปแบบการจัดการเรียนการสอนให้อยู่ในดุลยพินิจของผู้บริหารสถานศึกษา
3) เมื่อสถานศึกษาได้จัดการเรียนการสอนในรูปแบบปกติแล้ว ให้รายงานหน่วยงานต้นสังกัดและสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อรายงานต่อคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ต่อไป ในส่วนโรงเรียนเอกชนนอกระบบ ซึ่งเป็นการจัดการเรียนการสอนในระยะเวลาสั้นๆ จึงขอให้สถานศึกษาที่เหลืออีกจำนวน 147 แห่ง ประเมินตนเองตามแบบประเมินมาตรการปลอดภัยสำหรับองค์กร (COVID Free Setting) ที่ศูนย์อนามัยที่ 1 เชียงใหม่กำหนด
ในส่วนของการฉีดวัคชีน Pfizer ในกลุ่มเด็กนักเรียนอายุ 5-11 ปีนั้น ขณะนี้สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดเชียงใหม่ได้รวบรวมข้อมูลจำนวนนักเรียนที่มีอายุ 5-11 ปี ทั้งหมด 152,064 คน โดยจากการสำรวจ มีนักเรียนที่ผู้ปกครองประสงค์ฉีดวัคซีนไฟเซอร์เด็กแล้ว 87,137 คน คิดเป็นร้อยละ 57.30 ซึ่งเด็กนักเรียนอายุ 5-11 ปี กลุ่มแรกที่จะได้รับวัคน คือ เด็กที่มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรคโดยสถานพยาบาลจะติดต่อผู้ปกครองเพื่อนัดหมาย หรือขอให้ผู้ปกครองติดต่อสถานพยาบาลที่รับการรักษาอยู่เพื่อนัดหมายเข้ารับการฉีดวัคซีนต่อไป หลังจากนั้นจะดำเนินการผ่านระบบสถานศึกษา จัดสรรให้เด็กนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เป็นอันดับแรก
สำหรับข้อมูลการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ ในกลุ่มนักเรียน นักศึกษา อายุ 12-18 ปี จังหวัดเชียงใหม่ซึ่งมีนักเรียน นักศึกษา อายุ 12-18 ปี ในสถานศึกษาทั้งหมด 140,139 คน ได้รับการฉัดวัคซีนแล้ว จำนวน 119.059
คน คิดเป็นร้อยละ 84.96 ของจำนวนนักเรียนทั้งหมด ทั้งนี้การฉีดวัคซีนให้กับเด็กยังเป็นไปตามความประสงค์ของผู้ปกครอง และไม่มีการบังคับแต่อย่างใด.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น