กลุ่มประชาชน​คนไทย​ผนึกกำลัง​ชาวเหนือยื่นหนังสือปธน.โจ​ ไบเดน​ ทบทวนใช้ประโยชน์​สถานกงสุล​ใหญ่​ในเชียงใหม่​ต้องไร้เคลือบแคลงไม่มีเจตนา​แฝงสร้างปมชักศึก​เข้า​บ้าน​

"ทนายนกเขา" จับมือชาวเชียงใหม่​ยื่นหนังสือ สถานกงสุลใหญ่สหรัฐฯ ทบทวนการใช้ประโยชน์​ก่อสร้างสถานกงสุลใหญ่สหรัฐประจำเชียงใหม่ ให้ปลอดจากเป็นศูนย์รวบรวมและกระจายอาวุธยุทโธปกรณ์และควบคุมปฏิบัติการทางทหาร หรือกองกำลังติดอาวุธ​ สร้างเงื่อนงำให้มหามิตรไทย
เชียงใหม่​ 25 เม.ย.- ที่สถานกงสุลใหญ่สหรัฐอเมริกา ประจำเชียงใหม่ใกล้สำนักงาน​เทศบาล​นครเชียงใหม่​ กลุ่มประชาชนคนไทย นำโดย นายนิติธร ล้ำเหลือ(ทนายนกเขา)​ พร้อมด้วย นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำกลุ่มประชาชนคนไทย (ปท.) และสมาชิกกลุ่มมวลชนเสื้อแดงเชียงใหม่​ ชาวเชียงใหม่​รักสถาบัน​ สภาลมหายใจเชียงใหม่และตัวแทนพลังมวลชนทุกกลุ่ม เข้ายื่นหนังสือเปิดผนึกถึงประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา​ โจ ไบเดน ผ่านสถานกงสุลใหญ่สหรัฐฯเชียงใหม่ เพื่อให้ทบทวนการใช้ประโยชน์ของสถานกงสุลสหรัฐฯแห่งใหม่ที่ใช้งบประมาณ​มหาศาล​กว่า​ 8​ พันล้านบาท ไม่ให้ส่งผลกระทบกับมิตรประเทศของไทย จนกลายเป็นการชักศึกเข้าบ้าน โดยเนื้อหาในหนังสือเปิดผนึกระบุขอให้พิจารณาทบทวนการก่อสร้างสถานกงสุลใหญ่สหรัฐ เชียงใหม่ ให้ปลอดจากการก่อสร้างในลักษณะที่จะเป็นศูนย์รวบรวมและกระจายอาวุธยุทโธปกรณ์และควบคุมปฏิบัติการทางทหาร อากาศ​ไร้คนขับหรือกองกำลังติดอาวุธ รวมถึงการเป็นฐานปฏิบัติการของสำนักข่าวกรองกลาง หรือ ซีไอเอ หากการดำเนินนโยบายเพื่อความมั่นคงของสหรัฐ แต่สร้างความเสี่ยงภัยให้กับประชาชนไทย และสร้างความเคลือบแคลงจากจีน การก่อสร้างสถานกงสุลใหญ่สหรัฐฯ เชียงใหม่ ควรทบทวนเพื่อมิให้เกิดเงื่อนไขการเผชิญหน้ากับมิตรประเทศของไทย ส่วนสถานการณ์ความไม่มั่นคงในสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา เป็นเรื่องภายในของเมียนมา ซึ่งสหรัฐควรเคารพจุดยืนในความเป็นกลางของไทย และบรรทัดฐานอาเซียนต่อการไม่แทรกแซงกิจการภายในของเมียนมา และขอให้สหรัฐอเมริกายุติการส่งยุทโธปกรณ์หรือกองกำลังผ่านชายแดนไทยไปยังเมียนมา เพื่อขจัดความเสี่ยงภัยที่จะลุกลามไปสู่สงครามตัวแทนในอนาคต
ทั้งนี้ นายนิติธร ล้ำเหลือ แกนนำกลุ่มประชาชนคนไทย (ปท.) กล่าวว่าได้นำทีมงานกลุ่มประชาชนคนไทย (ปท.) สัญจรไปที่ จ.เชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 23-25 เม.ย. เพื่อพบปะหารือกับภาคประชาชนในเชียงใหม่ ทุกกลุ่ม ทั้ง 'อดีตแดงเชียงใหม่ - สภาลมหายใจเชียงใหม่- กลุ่มพันธมิตรฯ -กลุ่มรักสถาบัน และภาคประชาชน อื่นๆ ซึ่งอยู่บนพื้นฐานที่ทุกกลุ่มมีเห็นต่างกันได้ แต่ไม่ควรสร้างความเกลียดชัง และมีเป้าหมายร่วมกันเพื่อพิทักษ์ผลประโยชน์ของคนไทยและประเทศชาติ จากการหารือ พบว่าชาวเชียงใหม่ต้องการเห็น 'การตรวจสอบ-การจับผิด-ถ่วงดุล' ที่มีประสิทธิภาพ แต่กลไกทางการเมืองและรัฐบาลชุดนี้ยังไม่มีคำตอบอย่างเป็นรูปธรรม จึงร่วมกันเดินทางมายื่นหนังสือผ่านสถานกงสุลฯ ขอให้มีการพิจารณาทบทวนการก่อสร้างสถานกงสุลใหญ่สหรัฐ เชียงใหม่ เพราะเห็นว่าอาจจะเป็นภัยต่อเชียงใหม่และเป็นภัยต่อประเทศ เพื่อให้สหรัฐอเมริกาได้คำนึงถึงความต้องการของชาวเชียงใหม่และชาวไทยทั่วประเทศ โดยการเคลื่อนไหวครั้งนี้มาจากทุกกลุ่มที่เห็นแก่ประโยชน์ของบ้านเมืองเป็นหลักไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองใดๆ​ ซึ่งมีตัวแทนของกงสุลใหญ่​สหรัฐฯ​มารับหนังสือดังกล่าวก่อนที่จะแยกย้ายไม่มีเหตุผิดปกติ​เกิดขึ้น.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

บสย. เผยผลค้ำประกันสินเชื่อปี 61 ยอดค้ำทะลุ 8.8 หมื่นล้านบาท แผนปี 62 ปั้น "New Business Model 2019" ตอบโจทย์ โลกเปลี่ยน ตั้งเป้าค้ำ 1.07 แสนล้านบาท

ม.เกษตรฯโดยวิทยุ ม.ก.คว้ารางวัลองค์กรดีเด่นวงการสื่อของ สวทท.เตรียมเข้ารับพระราชทาน"รางวัลเทพทอง"ของปีนี้

จัดยิ่งใหญ่ครบรอบก่อตั้ง 60 ปีสถานีวิทยุ ม.ก.เชียงใหม่ ปลุกพลังวิถีปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงรับมือโลกแปรปรวน