บพท.หนุนสร้างเครือข่าย'เมืองอัจฉริยะน่าอยู่และชาญฉลาด'ดันเชียงใหม่ศูนย์กลางต้นแบบ”Livable and Smart City Alliance” กระทรวง DE ร่วมปั้น
บพท.หนุนสร้างเครือข่าย'เมืองอัจฉริยะน่าอยู่และชาญฉลาด'เหนือดันเชียงใหม่ศูนย์กลางต้นแบบ”Livable and Smart City Alliance”
เชียงใหม่ 23 ก.พ.- ที่อุทยานวิทยาศาสตร์และเทศโนโลยี มหาวิทยาสัยเชียงใหม่ พันตำรวจโท อนุรักษ์ จิรจิตร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DE)เป็นประธานเปิดงานและบรรยายพิเศษในการประกาศความร่วมมือะหว่างเครือข่ายการพัฒนาเมืองศูนย์กลางที่น่าอยู่และชาญฉลาดด้านการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานข้อมูลสาธารณะสำหรับเมืองและการประชุมวิชาการพัฒนาเมืองศูนย์กลางที่น่าอยู่และชาญฉลาด (Smart City Conference) ครั้งที่ 2 ภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (2561 – 2580) โดยมีนายชัชวาลย์ ปัญญา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่กล่าวต้อนรับและมีหน่วยงานองค์กรต่างๆที่เกี่ยวข้องทางภาครัฐ เอกชน สถานศึกษาและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้าร่วมจำนวนมาก โดย รศ.ดร.ปุ่น เที่ยงบูรณธรรม รองผู้อำนวยการฝ่ายแผนและยุทธศาสตร์องค์กรหน่วยบริหารและการจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่(บพท.) ในฐานะผู้ให้ทุนสนับสนุนกล่าวถึงวัตถุประสงค์ว่า หนึ่งในหมุดหมายที่สำคัญคือการพัฒนาพื้นที่และเมืองอัจฉริยะที่น่าอยู่ ปลอดภัยและเติบโตอย่างยั่งยืนเพื่อทำให้การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและการลงทุนเกิดการขยายตัวมากขึ้น เกิดการกระจายรายได้อย่างเท่าเทียมและพัฒนาเมืองให้มีความน่าอยู่อย่างยั่งยืน มีความพร้อมที่จะรับมือและปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงทุกรูปแบบ ซึ่งสอดคล้องกับการพัฒนาแผนวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม พ.ศ. 2566 – 2570 ที่มีความพร้อมจะยกระตับสังคมและสิ่งแวดล้อมให้มีการพัฒนาอย่างยั่งยืน สามารถแก้ไขปัญหาท้าทายและปรับตัวได้ทันต่อพลวัตการเปลี่ยนแปลงของโลก โดยใช้วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ดังนั้นการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (Smart City) จึงเป็นส่วนหนึ่งของยุทศาสตร์ที่สำคัญ เพื่อพัฒนาเมืองให้สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาประเทศตามแนวทางการขับเคลื่อนประเทศไทย 4.0 (Thailand 4.0) แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ.2566-670) ซึ่งเชื่อมโยงกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ภายใต้แผนแม่บทประเด็นที่ 6 พื้นที่และเมืองน่าอยู่อัจฉริยะ เพื่อพัฒนาเมืองน่าอยู่ในทุกภูมิภาคของประเทศ เป็นศูนย์กลางและกระจายความเจริญในทุกภูมิภาคอย่างมีระบบการบริหารจัดการเมืองที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งความเป็นเมือง(Urbanization) และการมาถึงของเทศโนโลยีใหม่ (Emerging Technology) ภาคีเครือข่ายการพัฒนาเมืองศูนย์กลางที่น่าอยู่และชาญฉลาด “Livable and Smart City Alliance” ถูกหารือและพัฒนาขึ้นเพื่อวางแนวทางร่วมนำไปสู่การวางยุทธศาสตร์การวิจัยและสร้างนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาเชิงพื้นที่และลดความเหลื่อมล้ำ
รศ.ดร.ปุ่น ย้ำว่า หน่วย บพท. จึงเล็งเห็นดวามจำเป็นในการเร่งรัดกลไกการวิจัย เพื่อจะยกระดับโครงสร้างพื้นฐานทางติจิทัล(Digtal Infrastructure) ที่เข้ามาส่งผลให้เมืองเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ดังนั้นเมืองจึงต้องมีการปรับตัวเพื่อรองรับสถานการณ์ของการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว โดยเฉพาะการผลักดันให้เกิดการลงทุนของเมือง(Investment) หากเมืองเกิดการลงทุนอย่างถูกต้อง จะนำมาซึ่งโอกาสที่มากขึ้นและความเสี่ยงที่น้อยลงของเมืองจนนำไปสู่การเป็นเมืองน่าอยู่ในที่สุด กระบวนการที่จะนำไปสู่เมืองนำอยู่คือการพัฒนาเมืองอย่างชาญฉลาด(Smart City) โดยการใช้ข้อมูลและความรู้ (Data Driven Society) เพื่อช่วยให้เมืองตัดสินใจได้เร็วและมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น และเพื่อผลักดันให้เกิดการพัฒนาเมืองศูนย์กลางที่น่าอยู่และชาญฉลาดให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ทางหน่วย บพท. ร่วมกับกลไกเครือข่ายการพัฒนาเมืองศูนย์กลางที่น่าอยู่และชาญฉลาด (Livable and Smart City Aliance) ซึ่งประกอบด้วย ภาครัฐ ภาคเอกชน ภาควิชาการ และภาคประชาชน จึงได้กำหนดจัดงานนี้ขึ้นพร้อมทำ MOU เดินหน้าเพื่อนำไปสู่ความร่วมมือในการบริหารจัดการเมืองที่มีความสามารถทางการแข่งขัน เกิดระบบการจ้างงาน ลดวามเหลื่อมล้ำและยกระดับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ตลอดจนการเติบโตของเมืองอย่างยั่งยืน เพื่อแสดงผลงานของเครือข่ายพัฒนาเมืองศูนย์กลางที่น่าอยู่และชาญฉสาด (Lvable and Smart City Alliance) ระหว่างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) มหาวิทยาลัย/สถาบันอุดมศึกษา หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ผู้ประกอบการ และวิสาหกิจเพื่อสังคม (SE) รวมถึงเป็นเวทีแลกเปลี่ยนและนำเสนอผลงานทางวิชาการของเครือข่ายมหาวิทยาสัยในการพัฒนาเมืองศูนย์กลางที่น่าอยู่และชาญฉลาด ซึ่ง Smart City Conference ครั้งที่ 2 นี้ประกอบด้วย 7 ด้านคือ ด้านสิ่งแวดล้อมอัจฉริยะ (Smart Environment) ด้านพลังงานอัจฉริยะ (Smart Energy) ด้านการดำรงชีวิตอัจฉรียะ (Smart Living) ด้านการเดินทางและขนส่งอัจฉริยะ (Smart Mobility) ด้านเศรษฐกิจอัจฉริยะ (Smart Economy) ด้านการบริหารภาครัฐอัจฉริยะ (Smart Govemance) และด้านพลเมืองอัจฉริยะ (Smart People) เป็น Block Mountain ที่จะนำไปสู่การนำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ได้จริงและเกิดบริบทเมืองน่าอยู่ คุณภาพชีวิตที่ดีต่อไป.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น