จะเผาไปไหน เชียงใหม่ประกาศเขตภัยพิบัติไฟไหม้ป่า อ.หางดง-อ.เมือง เชิงดอยสุเทพ
เผาป่าไม่ไหวแล้ว เชียงใหม่ต้องออกประกาศเขตภัยพิบัติ 3 พื้นที่เชิงดอยสุเทพหวั่นลามหนักเข้าพื้นที่สำคัญ
สถานการณ์ไฟป่าบริเวณอุทยานแห่งชาติ สุเทพ-ปุย สั่งเฝ้าระวังเข้ม 2 จุด ที่อาจจะลุกลามเข้าสถานที่สำคัญ ย้ำความปลอดภัยเจ้าหน้าที่ หากพบผู้กระทำความผิด ส่งดำเนินคดีทันทีพร้อมประกาศเขตภัยพิบัติ
เชียงใหม่ 1 เม.ย.- ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันฯ ส่วนหน้า (ณ หน่วยพิทักษ์อุทยานสุเทพ-ปุย ที่ 4 ) อัพเดทสถานการณ์ไฟป่าบริเวณอุทยานแห่งชาติ สุเทพ-ปุย วันนี้ยังมีโซนเฝ้าระวังที่อาจจะลุกลามเข้าสถานที่สำคัญ 2 จุด ซึ่งเกิดขึ้นใหม่วันนี้ มีสถานะดังนี้ โซนผาฆ้องผากลอง มีเจ้าหน้าที่อยู่ในพื้นที่แล้ว ปฏิบัติการควบคุมและทำแนวกันไฟ โซน กม.17 มีเจ้าหน้าที่อยู่ในพื้นที่ ปฏิบัติการควบคุมและทำแนวกันไฟตลอดเวลาพร้อมสับเปลี่ยนกำลังต่อเนื่อง เพื่อความปลอดภัย โดยมีนายชัชวาลย์ ปัญญา รองผู้ว่าฯเป็นผู้บัญชาการในพื้นที่พร้อมหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด
ขณะที่อากาศยานของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ปฏิบัติการทิ้งน้ำดับไฟ ตามจุดที่สภาพอากาศเอื้ออำนวยโดยมีหน่วยร่วมปฏิบัติการควบคุมไฟป่า จนท. ปาไม้ อุทยาน (สนธิกำลังจาก เชียงใหม่ พิษณุโลก) ทหาร ฝ่ายปกครอง อาวาสมัครจากหมู่บ้านรวมจำนวนกว่า 200 นาย พร้อมย้ำความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ และหากพบผู้กระทำความผิดให้นำตัวส่งเจ้าหน้าที่เพื่อดำเนินคดีทันที
โดยนายชัชวาลย์ ปัญญา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้ลงนามในประกาศจังหวัดเชียงใหม่ เรื่อง เขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย/เขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินอัคคีภัย ไฟป่า ในพื้นที่บ้านหมู่ 7 ต.บ้านปง อ.หางดง บ้านหมู่ 3 ต.แม่เหียะ อ.เมือง และหมู่ 12 ต.สุเทพ อ.เมือง
ด้วยได้เกิดเหตุอัคคีภัย ไฟป่า ขึ้นในเขตพื้นที่อำเภอหางดงและอำเภอเมืองพิกัดดังกล่าว เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2566 ซึ่งภัยดังกล่าวเป็นสาธารณภัย/ภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินก่อให้เกิดความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สิน
ของประชาชน หรือก่อให้เกิดวัตถุมลพิษหมอกควันที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยและการดำรงชีวิต
เพื่อประโยชน์ในการจัดการสาธารณภัยให้เป็นไปตามแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติและการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน เร่งด่วน อาศัยอำนาจตามความ ข้อ 20 วรรคสาม ของระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ.2562 ประกอบกับแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ เพื่อให้ส่วนราชการ หน่วยงาน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง เข้าดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ในเขตพื้นที่ประสบภัยดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ.2550 แผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดและแผนอื่นที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนกฎหมาย ระเบียบ คำสั่ง ประกาศและมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องโดยเร็วและดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กระทรวงการคลังกำหนด ทั้งนี้ ต้องไม่เกิน 3 เดือน นับแต่วันที่เกิดภัย.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น