คณะพุทธศาสนิกชนศรีลังกาชื่นชม'ข่วงพระเจ้าล้านนา'

ประธานมูลนิธิธรรมดี นำคณะพระเดชพระคุณ วาธุกุมบุรี ธัมมะคีธี ศรีมังคละ ธมฺมราธนภิธาน นายากา เถโร เจ้าอาวาสผู้ก่อตั้งวัด Nelligala International Buddhist Center ประเทศศรีลังกาพร้อมพุทธศาสนิกชนชาวศรีลังกา เยี่ยมชม 'ข่วงพระเจ้าล้านนา จังหวัดเชียงใหม่'

เชียงใหม่ 27 ธ.ค. - ที่ข่วงพระเจ้าล้านนาดด้านหน้าโครงการพระราชดำริอ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า จังหวัดเชียงใหม่ ดร. ดนัย จันทร์เจ้าฉาย ประธานมูลนิธิธรรมดี พร้อมด้วย คุณศิราม สุภารัตน์นำคณะพระเดชพระคุณ วาธุกุมบุรี ธัมมะคีธี ศรีมังคละ ธมฺมราธนภิธาน นายากา เถโร เจ้าอาวาสผู้ก่อตั้งวัด Nelligala International Buddhist Center ประเทศศรีลังกาพร้อมพุทธศาสนิกชนชาวศรีลังกากว่า 50 คน เยี่ยมชมข่วงพระเจ้าล้านนา จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีนางพูลสุข บัววิรัตน์เลิศ กรรมการมูลนิธิช่วงพระเจ้าล้านนาและคณะให้การต้อนรับ ดร. ดนัย จันทร์เจ้าฉาย ประธานมูลนิธิธรรมดี เปิดเผยว่า การที่พระเดชพระคุณ วาธุกุมบุรี ธัมมะคีธี ศรีมังคละ ธมฺมราธนภิธาน นายากา เถโร พร้อมพุทธศาสนิกชนชาวศรีลังกา เยี่ยมชมข่วงพระเจ้าล้านนา จังหวัดเชียงใหม่ครั้งนี้ เนื่องจากข่วงพระเจ้าล้านนามีความสำคัญทางพระพุทธศาสนา และเป็นพุทธมณฑล แห่งแรกในภาคเหนือและแห่งเดียวในประวัติศาสตร์ชาติไทยที่ไม่ใช้งบประมาณแผ่นดินแม้แต่บาทเดียว ที่ อาจารย์วารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ ประธานมูลนิธิอาจารย์วารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ มูลนิธิข่วงพระเจ้าล้านนาสร้างขึ้นเพื่อเป็นศูนย์กลางทางศาสนาในการเผยแพร่พุทธศาสนาและสืบสานภูมิปัญญาล้านนา โดยทางคณะได้ปฐมฤกษ์เข้ากราบสักการะบูชา พระเจ้าล้านนาปางพิชิตมาร หน้าตัก 99 นิ้ว เพื่อขอพรให้ชนะมารและอุปสรรคทั้งปวงในวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2567 นี้ จากนั้นได้ไปกราบสักการะบูชาพระพุทธบาทสี่รอยจำลองภายในพุทธะมหาเจดีย์ข่วงพระเจ้าล้านนา รวมทั้งกราบขอพรพระเจ้าทันใจเป็นสิริมงคล ให้สำเร็จทุกสิ่งสมประสงค์รวดเร็วทันใจ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปทองเหลืองที่สร้างเสร็จรวดเร็วภายใน 7 วัน จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้แนะนำให้ทางคณะผู้มาเยือนได้เปลี่ยนเครื่องแต่งกาย เป็นกางเกงสะดอนุ่งผ้าซิ่น เป็นหนุ่มสาวชาวล้านนา เพื่อนั่งวัวล้อ(เกวียน) เยี่ยมชมตลาดโบราณ และเฮือนโบราณย้อนยุคไป 100 ปี โอกาสนี้พระเดชพระคุณ วาธุกุมบุรี ธัมมะคีธี ศรีมังคละ ธมฺมราธนภิธาน นายากา เถโร พร้อมคณะชาวศรีลังกาได้ร่วมรับประทานขันโตกอาหารพื้นเมืองล้านนาที่หาทานยาก และเป็นเอกลักษณ์ของชาวเหนือ ลำแต๊ๆเจ้า เหมือนย้อนยุคไปในสมัย 100 ปีที่แล้ว นับเป็นการเปิดประสบการณ์ทางศิลปะวัฒนธรรมล้านนาที่ยอดเยี่ยมที่สุด โดยทางคณะพุทธศาสนิกชนชาวศรีลังกา ต่างชื่นชมความงดงามของข่วงพระเจ้าล้านนาความเป็นมาและวิถีต้นแบบของความเป็นล้านนาในการมาเยือนครั้งนี้ด้วย ทั้งนี้สำหรับข่วงพระเจ้าล้านนา ยังประกอบด้วย ศาลาประสูติตรัสรู้ปรินิพพาน ศาลาบาตร นับเป็นพุทธมณฑลล้านนาที่สามารถเข้ามาเยี่ยมชมเพื่อศึกษาธรรมะและเรียนรู้ศิลปะวัฒนธรรมล้านนาได้เป็นอย่างดี ข่วงพระเจ้าล้านนา ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เริ่มเปิดให้บริการเข้าไปเยี่ยมชมสถานที่ทางข่วงฯ ได้จัดกิจกรรมเยี่ยมชมหมู่บ้านล้านนาย้อนยุค 100 ปี นั่งวัวล้อเที่ยวตลาด กินอาหารพื้นเมืองให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสบรรยากาศแบบวิถีล้านนา

สำหรับพระเดชพระคุณ วาธุกุมบุรี ธัมมะคีธี ศรีมังคละ ธมฺมราธนภิธาน นายากา เถโร เมื่อปี พ.ศ.2563 พระเดชพระคุณได้อัญเชิญ “พระบรมเกศาธาตุ”มาประดิษฐานที่พระตำหนักเพ็ชร วัดบวรฯ ให้ศรัทธาสาธุชนชาวไทยและต่างประเทศนับแสนราย ได้กราบสักการะอย่างใกล้ชิดเป็น ‘ครั้งแรก’ และยังเป็น ‘ครั้งแรก’ ในรอบพันปีที่ได้รับอนุญาตให้อัญเชิญออกนอกเกาะลังกา เป็นเหตุการณ์ครั้งประวัติศาสตร์ ซึ่งพระบรมเกศาธาตุองค์นี้ เดิมประดิษฐานอยู่ที่ “Yatihalagaya Raja Maha Vihara” วัดโบราณอายุกว่า 700 ปี ที่อยู่ในความดูแลของวัดอัสคิริยามหาวิหาร และได้รับการปกปักรักษามาหลายชั่วอายุคน ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ที่ “ศรีศากยสิงเหสุคันธกุฏิ” (Sri Shakyasinghe Sugandha Kuti) ภายใน “เนลลิกาลา อินเตอร์เนชันแนล บุดดิสต์ เซ็นเตอร์” (Nelligala International Buddhist Centre) เมืองแคนดี้ ประเทศศรีลังกา นอกจากนี้เมื่อธันวาคม 2562 ถึงมกราคม 2563 มูลนิธิสมเด็จพระญาณสังวรฯ มูลนิธิธรรมดี และองค์กรภาคี ได้อัญเชิญพระบรมเกศาธาตุและพระบรมสารีริกธาตุ มาประดิษฐาน ณ พระตำหนักเพ็ชร วัดบวรนิเวศวิหาร เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และเพื่อเฉลิมฉลอง 700 ปี แห่งความสัมพันธ์ทางพุทธศาสนาเถรวาทไทย - ลังกา