แบงค์ชาติเหนือแถลงภาวะเศรษฐกิจไตรมาส 4/67 ปรับตัวดีจากมาตรการภาครัฐ คาดQ1/68 ยังดีต่อเนื่องแต่ต้องระวังสถานการณ์สังคมโลก-pm2.5 และนโนบายหนุนของรัฐบาล

แบงค์ชาติเหนือแถลงภาวะเศรษฐกิจไตรมาส 4/67 ปรับตัวดีจากมาตรการภาครัฐ คาดQ1/68 ยังดีต่อเนื่องแต่ต้องระวังสถานการณ์สังคมโลก-pm2.5 และนโนบายหนุนของรัฐบาล
เชียงใหม่ 4 ก.พ- ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือ จ.เชียงใหม่สรุปภาวะเศรษฐกิจภาคเหนือไตรมาส 4 ปี 2567 และแนวโน้มไตรมาส 1 ปี 2568 โดยนางพรวิภา ตั้งเจริญมั่นคง ผู้อำนวยการอาวุโส ธปท.สำนักงานภาคเหนือระบุว่า ภาวะเศรษฐกิจไตรมาส 4 ปี 2567 ภาคเหนือปรับดีขึ้นจากไตรมาสก่อนตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นตามจำนวนเที่ยวบิน สภาพอากาศและการจัดกิจกรรมในพื้นที่ที่มากขึ้น การบริโภคขยายตัวได้ดีจากมาตรการกระตุ้นภาครัฐและการซ่อมสร้างหลังอุทกภัย ผลผลิตอุตสาหกรรมปรับดีขึ้นตามความต้องการของคู่ค้าในหมวดอาหารแปรรูปและชิ้นส่วนอิเล็กพรอนิกส์ รวมถึงการเบิกจ่ายภาครัฐที่ปรับดีขึ้น อย่างไรก็ตามการลงทุนยังหดตัวต่อเนื่อง รายได้เกษตรกรปรับลดลงจากราคาพืชสำคัญที่หดตัวและการจ้างงานปรับลดลงเล็กน้อย ด้านอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน จากผลของฐานราคาพลังงานที่ต่ำ ตามมาตรการช่วยค่าครองชีพของรัฐในปีก่อน ทั้งนี้ในรายละเอียดของแต่ละภาคพบว่า ภาครายได้เกษตรกร หดตัวเล็กน้อย จากราคาที่หดตัวต่อเนื่อง ตามราคาข้าวเปลือกที่ฐานสูงในปีก่อนและการส่งออกที่ชะลอลง ราคาอ้อยโรงงานปรับลดลงตามราคาอ้อยขั้นต้น อย่างไรก็ดี ด้านผลผลิตขยายตัวตามข้าวนาปีและอ้อยโรงงานจากสภาพอากาศเอื้ออำนวยมากกว่าปีก่อน ประกอบกับราคาในช่วงก่อนหน้าอยู่ในเกณฑ์ดี จูงใจให้เกษตรกรเพิ่มการผลิต ภาคอุตสาหกรรม ขยายตัว จากหมวดอาหารแปรรูปเพื่อส่งออกเพิ่มขึ้นตามอุปสงค์คู่ค้าในตลาดเอเชีย หมวดชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ปรับดีขึ้นตามความต้องการที่ทยอยฟื้นตัว ประกอบกับการขยายสายการผลิตของผู้ประกอบการในพื้นที่ หมวดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ปรับดีขึ้นเพื่อรองรับเทศกาล นอกจากนี้ เซรามิกตลาดบนปรับดีขึ้นตามการส่งออกไปสหรัฐฯและยุโรป ภาคการท่องเที่ยว ขยายตัว ตามจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นทั้งชาวไทยและต่างชาติ จากปัจจัยสนับสนุนเรื่องการเพิ่มขึ้นของจำนวนเที่ยวบิน สภาพอากาศเย็น และการจัดกิจกรรมในพื้นที่ที่มากกว่าปีก่อน สะท้อนจากจำนวนผู้โดยสารผ่านท่าอากาศยานภาคเหนือ ทั้งฝั่งในประเทศและต่างประเทศ โดยเร่งขึ้นจากนักท่องเที่ยวชาวจีน และเกาหลีไต้ สอดคล้องกับอัตราการเข้าพักแรมที่เพิ่มขึ้น ด้านการอุปโภคบริโภค ขยายตัว จากการบริโภคสินค้าอุปโภคบริโภคและสินค้ากึ่งคงทน และรถจักรยานยนต์ที่ปรับดีขึ้น ตามกิจกรรมในฤดูกาลท่องเที่ยว โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 10,000 บาท และการซ่อมสร้าง อย่างไรก็ตาม รถยนต์นั่งและรถกระบะยังลดลงตามการระมัดระวังการให้สินเชื่อ และการบริโภคเกี่ยวเนื่องกับภาคบริการลดลงตามจำนวนนักท่องเที่ยวไทยที่ลดลงในช่วงอุทกภัย ขณะที่การลงทุนภาคเอกชน หดตัว จากการลงทุนก่อสร้างหดตัว ตามพื้นที่ได้รับอนุญาตก่อสร้างประเภทที่อยู่อาศัยแนวราบ และการลงทุนเพื่อการผลิตหดตัว ในหมวดรถยนต์เชิงพาณิชย์ประเภทรถกระบะและรถแทรกเตอร์ รวมถึงการนำเข้าสินค้าทุนชะลอลงหลังจากเร่งนำเข้าของกลุ่มธุรกิจผลิตชิ้นส่วนและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ด้านยอดจำหน่ายเครื่องจักรลดลงจากเครื่องจักรการเกษตร ด้านการค้าชายแดน ขยายตัวเล็กน้อย จากการส่งออกลำไยสดไปจีน ประกอบกับน้ำมันสำเร็จรูป ยานยนต์ และหลายหมวดสินค้าไปเมียนมาปรับดีขึ้น จากการขนส่งทำได้ มากขึ้นหลังผ่านช่วงฤดูฝนและความไม่สงบบริเวณชายแดนผ่อนคลายมากขึ้น ด้านการนำเข้าหดตัว ตามผักและผลไม้จากจีนที่ผลผลิตเสียหายจากอุทกภัยและมีการเปลี่ยนเส้นทางขนส่ง ขณะที่กระแสไฟฟ้าจาก สปป.ลาว และแร่พลวงจากเมียนมาขยายตัว อัตราเงินเฟ้อ ลดลง จากราคาหมวดพลังงานและเงินเฟ้อพื้นฐาน ตลาดแรงงาน ลดลงเล็กน้อย หลังการจ้างงานภาครัฐเร่งไปในไตรมาสก่อน อย่างไรก็ดี การจ้างงานในภาคท่องเที่ยวยังขยายตัวต่อเนื่อง ส่งผลดีต่อการจ้างงานภาพรวม
ส่วนแนวโน้มไตรมาส 1 ปี 2568 คาดว่า มีทิศทางปรับดีขึ้นเล็กน้อย การท่องเที่ยวขยายตัวต่อได้ ตามอากาศที่หนาวและการเพิ่มจำนวนเที่ยวบิน ผลผลิตอุตสาหกรรมยังฟื้นตัวตามความต้องการของคู่ค้าในหมวดอาหารและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ การบริโภคคาดว่าจะทรงตัวตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจและภาคบริการ ยังมีแรงกดดันจากกำลังซื้อและการระมัดระวังการให้สินเชื่อ ขณะที่การลงทุนคาดว่าหดตัวตามการก่อสร้างและรายได้เกษตรกรปรับลดลงจากผลทางด้านราคาเกษตร สำหรับประเด็นที่ต้องติดตามที่ท้าทายคือ (1) ความรุนแรงของสถานการณ์หมอกควัน (2) การฟื้นตัวของอุปสงค์ต่างประเทศและผลกระทบจากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ และ (3) นโยบายด้านเศรษฐกิจของรัฐบาล ส่วนมาตรการช่วยเหลือขณะนี้ โครงการคุณสู้เราช่วย ที่รับลงทะเบียนถึง 28 ก.พ.นี้ พบว่า จำนวนผู้เข้าร่วมโครงการฯ ยังต่ำกว่าที่คาดไว้ สาเหตุหนึ่งที่มีการสะท้อนกลับคือเงื่อนไขไม่รองรับเช่น ลูกหนี้ชั้นดีที่จะร่วมโครงการต้องถูกบันทึกประวัติเครดิตบูโรด้วย เป็นต้น จึงต้องเร่งประชาสัมพันธ์ก่อนหมดเวลาลงทะเบียน เช่นเดียวกับภัยทางการเงินยังเป็นปัญหาสำคัญที่ประชาชนมีความเสี่ยงในความเดือดร้อน ซึ่ง ธปท.ได้ทยอยหามาตรการเข้ามาป้องกันและแก้ไข ล่าสุดมีการหารือเข้มงวดเรื่องบัญชีม้ากับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อตัดวงจรของมิจฉาชีพอีกช่องทาง.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

บสย. เผยผลค้ำประกันสินเชื่อปี 61 ยอดค้ำทะลุ 8.8 หมื่นล้านบาท แผนปี 62 ปั้น "New Business Model 2019" ตอบโจทย์ โลกเปลี่ยน ตั้งเป้าค้ำ 1.07 แสนล้านบาท

ม.เกษตรฯโดยวิทยุ ม.ก.คว้ารางวัลองค์กรดีเด่นวงการสื่อของ สวทท.เตรียมเข้ารับพระราชทาน"รางวัลเทพทอง"ของปีนี้

จัดยิ่งใหญ่ครบรอบก่อตั้ง 60 ปีสถานีวิทยุ ม.ก.เชียงใหม่ ปลุกพลังวิถีปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงรับมือโลกแปรปรวน