"อนุทิน"ยกคณะลงพื้นที่ อ.ปายพร้อมทูตอิสรเอล ยันไม่เลวร้ายตามโซเชียล
ตร.ภาค 5 ร่วมรับนโยบายร่วมประชุมกับคณะรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยพร้อมทูตอิสรเอล ติดตามสถานการณ์ความมั่นคงในพื้นที่ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน รองนายกฯและมท.1 ยันข้อมูล อ.ปายไม่ร้ายแรงตามโซเชียล บางเรื่องไม่มีจริง! ทูตอิสราเอลย้ำไม่มีขาใหญ่มาเฟียวอนขอความเป็นธรรมไม่ตราบาปเหมารวม
เชียงใหม่ 26 ก.พ.- จากกรณีที่ปรากฎข้อมูลข่าวสารว่า มีกลุ่มคนต่างด้าวมีพฤติกรรมที่อาจขัดต่อความสงบเรียบร้อยของสังคมหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ฝ่าฝืนกฎหมายบ้านเมืองก่อความวุ่นวายหรือความเดือดร้อนรำคาญในที่สาธารณะ ตลอดจนการรวมกลุ่มแสดงออกหรือจัดกิจกรรมในลักษณะที่กระทบภาพลักษณ์และความมั่นคงของประเทศ ในพื้นที่่ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน จนเป็นข้อกังวลของสังคมขณะนี้นั้น วันนี้(26 ก.พ.)พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน รอง ผบช.ภ.5 เผยว่า ได้ร่วมรับนโยบายกับคณะของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในโอกาสลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์ในกรณีดังกล่าวที่ อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยมี พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม., พร้อมคณะผู้เกี่ยวข้องได้เข้าร่วมประชุมติดตามสถานการณ์ความมั่นคงในพื้นที่ อ.ปาย ดังกล่าวด้วย เพื่อรับทราบสถานการณ์และแนวทางการแก้ไขปัญหา ซึ่งมีนางออร์นา ซากิฟ เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย พร้อมด้วย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย, นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง, นายเอกวิทย์ มีเพียร ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ตลอดจนหน่วยราชการต่างๆ องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น และผู้ประกอบการในพื้นที่เข้าร่วมประชุมด้วย โดยจากปัญหาที่เกิดขึ้นและมีการส่งต่อข้อมูลสถานการณ์ของอำเภอปายทำให้กลายเป็นข้อวิตกกังวลของสังคมในภาพรวม เป็นภาพลักษณ์ที่สร้างผลเสียหายทั้งการท่องเที่ยวและความมั่นคงที่รัฐบาลให้ความสำคัญเร่งด่วนในการแก้ไขเวลานี้
จากนั้น ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และคณะได้เดินทางไปยัง สภ.ปาย เพื่อประชุมในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รับฟังสภาพปัญหาและเพิ่มเติมมาตรการในการปฏิบัติ โดยเน้นมาตรการบังคับใช้กฎหมาย บูรณาการกับภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง รักษาไว้ซึ่งอัตลักษณ์แหล่งท่องเที่ยวของอำเภอปายและวางมาตรการในการรักษาความปลอดภัยความสงบเรียบร้อย เพื่อให้เกิดดุลยภาพระหว่างความต้องการในการเสนอขายในการท่องเที่ยวและความต้องการของนักท่องเที่ยวโดยเร่งด่วน และในส่วนการต้องปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ อ.ปาย เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความปลอดภัยจากการกระทำความผิดอาชญากรรมทุกประเภท สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้อย่างยั่งยืน อีกทั้งประชาสัมพันธ์โดยบูรณาการร่วมกับทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องในการให้ความรู้ทั้งนักท่องเที่ยวอิสราเอล นักท่องเที่ยวสัญชาติอื่นๆ ตลอดจนชุมชนชาว อ.ปาย และประชาชนในภาพรวม เพื่อให้ทราบสถานการณ์ที่แท้จริงต่อไป
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรมว.มหาดไทยและโฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า คณจะได้ร่วมกันลงพื้นที่และประชุมติดตามสถานการณ์และรับฟังความเห็นจากประชาชนใน อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน เกี่ยวกับชาวอิสราเอลที่ท่องเที่ยวและอาศัยในพื้นที่ตามที่เป็นข่าว ซึ่งลงพื้นที่ "ชาบัด" สถานที่ให้บริการศาสนกิจให้กับนักท่องเที่ยวที่ถูกพาดพิงด้วย
นายอนุทินได้ขอขอบคุณทางเอกอัครราชทูตอิสราเอลที่ได้ร่วมเดินทางลงพื้นที่กับคณะ ตลอดจนทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน ตัวแทนนักท่องเที่ยว ที่มาร่วมแลกเปลี่ยนข้อมูลกันเพื่อคลี่คลายความกังวลและทำให้เห็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น การลงพื้นที่วันนี้ มีเป้าหมายเพื่อติดตามสถานการณ์และรับฟังข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการท่องเที่ยวใน อ.ปาย โดยเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวกับนักท่องเที่ยวชาวอิสราเอลที่ปรากฏในข่าวสารต่าง ๆ ซึ่งอยู่สนใจของประชาชนทั่วประเทศ และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญและสั่งการให้ตนและปลัดกระทรวงมหาดไทยลงพื้นที่มาติดตามสถานการณ์ สืบหาข้อเท็จจริง และอธิบายถึงสิ่งที่เกิดขึ้น เพื่อลดความกังวลของพี่น้องประชาชนคนไทยที่ติดตามข่าว ซึ่งมีหลายประเด็นที่ถ้าไม่มาเห็นกับตาตัวเองอาจจะทำให้เกิดความเข้าใจผิดและเกิดความสับสน
ทั้งนี้ อ.ปายเป็นหนึ่งในจุดหลายปลายทางการท่องเที่ยวสำคัญของไทย ดึงดูดนักท่องเที่ยว เสริมสร้างรายได้ให้กับคนในพื้นที่ตลอดจนคนต่างถิ่นที่จะเข้ามาประกอบอาชีพ ขยายมูลค่าทางเศรษฐกิจของ อ.ปายได้เป็นอย่างมากด้วยการมีทรัพยากรธรรมชาติซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยว แต่เรื่องความกังวลต่าง ๆ ซึ่งปรากฏในโซเชียลมีเดีย หรือในการนำเสนอข่าวนั้น ส่วนตัวได้ติดตามจากท่านผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนตลอดเวลา และได้รับการยืนยันว่า มีหลายประเด็นที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริง มีการพูดให้เกินความเป็นจริงไปมากพอสมควร และไม่ได้มีประเด็นในเรื่องที่เกี่ยวกับเรื่องของการแทรกซึม หรือการทำลายความมั่นคง หรือการที่จะเข้ามาสร้างชุมชน เป็นแหล่งที่พักพิงของชาวต่างประเทศ นอกเหนือจากคนที่มาท่องเที่ยว แต่บางคนอาจจะอยู่ในระยะเวลานานหน่อยและได้รับการยืนยันว่า ทุกคนการเคารพกฎหมายของไทยและยังอยู่ในระเบียบและไม่ปฏิบัติตนให้เป็นภัยต่อคนในพื้นที่และยังสามารถที่จะดำเนินชีวิตได้อย่างเป็นปกติสุขได้
"วันนี้มีการหลั่งไหลของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและชาวไทยเพิ่มมากขึ้น จึงอาจจะส่งผลให้ความสงบที่เคยมี กลายเป็นความคึกคักที่เพิ่มมากขึ้น ไม่เงียบเหมือนสมัยก่อน แต่สิ่งที่ต้องไม่เกิดขึ้น คือ เรื่องของการคุกคามชาวบ้าน ต้องไม่มีขาใหญ่ ต้องไม่มีนักเลง ต้องไม่มีมาเฟียและต้องไม่มีมาฟรี นักท่องเที่ยวต้องมาใช้เงิน มาสร้างรายได้ให้กับพี่น้องประชาชน ซึ่งเรื่องเหล่านี้ไม่เกินความสามารถของ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เจ้าหน้าที่ตำรวจ และทุกหน่วยงาน ซึ่งหน่วยเหนือพร้อมที่จะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่และขอย้ำว่า ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย ไม่ทำให้คนไทยได้รับความเดือดร้อนและพื้นที่ได้รับความเดือดร้อน" นายอนุทิน กล่าว
ด้านนางออร์นา ซากิฟ กล่าวว่า ในช่วงก่อนสถานการณ์โควิด-19 จะมีนักท่องเที่ยวชาวอิสราเอลเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยปีละ 200,000 คน และเพิ่มเป็น 300,000 คนในช่วง 3-4 ปีก่อน ซึ่งเมื่อเทียบกับจำนวนประชากรทั้งประเทศ 10,000,000 คน นับเป็นสัดส่วนที่มาก
"จากการสอบถามชาวอิสราเอลที่มาท่องเที่ยวในประเทศไทย ต่างมีความเห็นว่า เพราะปลอดภัยที่มาที่นี้ ได้รับการต้อนรับอบอุ่น ไม่ได้รับการรังเกียจเดียดฉันท์ เป็นเมืองที่มาแล้วมีความสุข และขอความกรุณาว่า อย่าตีตราบาปนักท่องเที่ยวอิสราเอล ด้วยเพราะวัฒนธรรมแตกต่าง ทั้งนี้ในฐานะเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทยได้กำชับทุกหน่วยสร้างการรับรู้ความเข้าใจให้ชาวอิสราเอลที่มาเที่ยวในไทยได้ปรับตัวให้เข้ากับวัฒนธรรมให้มากที่สุด สร้างองค์ความรู้ Do & Don't และต้องขอโทษแทนชาวอิสราเอลบางส่วน พร้อมยืนยันว่า ทุกอย่างจะดีขึ้น" นางออร์นา กล่าวและว่า ปัจจุบันมีชาวอิสราเอลตัดสินใจใช้ชีวิตใน อ.ปาย ด้วยการสร้างครอบครัว สมรสกับชาวไทย ประมาณ 20 ครอบครัว ไม่ได้เป็นการมายึดครองพื้นที่แต่อย่างใด นอกจากนี้ ยังยืนยันว่าชาบัดไม่ใช่ศาสนสถาน แต่เป็นสถานที่ให้บริการศาสนกิจให้กับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวในไทยตามศาสนาที่เขานับถือ เป็นการดำเนินการภายใน จึงขอสร้างความเข้าใจและจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อไม่ให้เกิดความไม่สบายใจกับประชาชนแน่นอน.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น