เชียงใหม่เดินหน้าปรับแผน Smart city 68-70
จังหวัดเชียงใหม่ถกปรับแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาเมืองอัจฉริยะ smart city ปี 68-70 สู่เป้าเสนอรับตราสัญลักษณ์เมืองอัจฉริยะ 7 ด้าน ภายในปี 69
เชียงใหม่ 26 ก.พ.- ที่ห้องประชุม 3 ศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายวีรพงศ์ ฤทธิ์รอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการผู้บริหารเทคโนโลยีสารสนเทศระดับสูง ระดับจังหวัด (Provincial Chief Information Officer Committee:PCIO) เพื่อพัฒนาและต่อยอดการขับเคลื่อน ในแต่ละภาคส่วน สู่การพัฒนาจังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้การเปลี่ยนแปลงในโลกดิจิทัล โดยมีส่วนงานราชการที่เกี่ยวข้องรวมถึงภาคเอกชนและภาคประชาสังคมร่วมกันพิจารณาเรื่องของแผนพัฒนาจังหวัดภายใต้ยุทธศาสตร์การพัฒนาเมืองอัจฉริยะ Smart city
ในการนี้ นายปรัชญา โกมณี ผู้จัดการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล สาขาภาคเหนือตอนบน ได้รายงานผลการดำเนินงานส่งเสริมและสนับสนุนการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ว่า ในปี 2567 อาทิ โครงการ 1 ตำบล 1 ดิจิทัล(ชุมชนโดนใจ) ,โครงการพัฒนาการเรียนโค้ดดิ้งพัฒนาคุณภาพชีวิต สร้างรากฐานอนาคตประเทศไทย 69 โรงเรียน และรายงานเมืองที่ได้รับตราสัญลักษณ์ Smart City 3 พื้นที่ ได้แก่ เทศบาลนครเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เทศบาลตำบลบวกค้าง และด้านเมืองที่ได้รับการประกาศเขตส่งเสริมเมืองอัจฉริยะ อีก 8 พื้นที่ ได้แก่ เมืองที่อยู่ระหว่างเข้าคณะกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ คือ เทศบาลเมืองแม่เหียะ ,เมืองที่อยู่ระหว่างปรับปรุงเพิ่มเติมรายละเอียด 5 พื้นที่ ได้แก่ เทศบาลตำบลสันนาเม็ง ,เทศบาลเมืองแม่โจ้ ,เทศบาลตำบลหนองป่าครั่ง ,อบต.ดอนแก้ว และเทศบาลตำบลไชยปราการ และเมืองที่ไม่ผ่านเกณฑ์ เนื่องจากประชาชนในพื้นที่ไม่ถึงเกณฑ์ 2 พื้นที่ ได้แก่ เทศบาลตำบลน้ำแพร่ และเทศบาลตำบลเวียงพร้าว
ทั้งนี้ที่ประชุมยังได้พิจารณาวาระสำคัญในร่างแผนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะจังหวัดเชียงใหม่ พ.ศ.2568-2570 พร้อมมีมติให้ตั้งคณะทำงานจัดทำแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาเมืองอัจฉริยะจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อขับเคลื่อนให้เป็นรูปธรรมต่อไป โดยที่ประชุมได้นำเสนอแผนงาน 5 ส่วนได้แก่ ข้อมูลพื้นฐาน ข้อจำกัด วิสัยทัศน์ มิติการพัฒนาเมือง 7 ด้าน และรายละเอียดโครงการและงบประมาณ ที่ประชุมได้เห็นชอบ โดยมีข้อเสนอแนะที่สำคัญได้แก่ การจัดกลุ่มยุทธศาสตร์ตามมิติการพัฒนา Smart city 7 กลุ่ม การเติมมิติของ Urban Area Development และอนาคต รวมถึงการนำ Open Data Driven เป็นแกนขับเคลื่อน พร้อมกับการ Benchmark ปัจจัยความสำเร็จ KSF ของการพัฒนา รวมถึงการดึงมิติการพัฒนาเศรษฐกิจ การลงทุนยกระดับฐานการพัฒนาประชาชน - SMEs ด้วยสิทธิประโยชน์ทางภาษี ผ่าน BOI Chiangmai และนโยบายระเบียงเศรษฐกิจ เป็นต้น
สำหรับ 7 ด้านตามเป้าหมายเมืองอัจฉริยะจังหวัดเชียงใหม่คือ
1. พัฒนาเศรษฐกิจอัจฉริยะ (Smart Economy) – ส่งเสริมการลงทุนด้านเทคโนโลยีและสตาร์ทอัพ เพื่อยกระดับเศรษฐกิจดิจิทัลและอุตสาหกรรมสร้างสรรค์
2. ยกระดับคุณภาพชีวิต (Smart Living) – ใช้เทคโนโลยีในการพัฒนาสาธารณสุข ความปลอดภัย และ
สิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างเมืองที่น่าอยู่
3. บริหารจัดการเมืองอย่างมีประสิทธิภาพ (Smart Governance) – นำเทคโนโลยีมาใช้ในการบริหาร
ภาครัฐ ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน
4. พัฒนาระบบขนส่งและโครงสร้างพื้นฐาน (Smart Mobility) – ปรับปรุงการคมนาคมขนส่งและโครงสร้างพื้นฐานด้วยระบบอัจฉริยะ ลดปัญหาการจราจรและมลพิษ
5. พัฒนาสิ่งแวดล้อมอัจฉริยะ (Smart Environment) – ลดมลภาวะ แก้ไขปัญหาและสร้างสมดุลทางธรรมชาติ
6. ส่งเสริมการศึกษาและนวัตกรรม (Smart People) – พัฒนาแรงงานดิจิทัล ส่งเสริมการเรียนรู้และสร้างสรรค์นวัตกรรม
7. ส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด(Smart Energy) – ปรับเปลี่ยนพลังงานดังเดิมสู่พลังงานใหม่ที่เป็นมิตร
ต่อสิ่งแวดล้อมและประหยัดพลังงาน โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญในการพัฒนาเมืองอัจฉริยะคือ ยกระดับระบบบริหารเมืองใช้ Big Data และ AI ในการบริหารจัดการเมืองเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการตัดสินใจ มีการให้บริการข้อมูลเมืองแก่ผู้ประกอบการ ผู้อยู่ผู้อาศัยและเยี่ยมเยื่อน ส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล โดยพัฒนาสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อสตาร์ทอัพและส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีในอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ เป็นต้น มีเป้าหมายยื่นรับตราสัญลักษณ์ในปี 2569
แหล่งอ้างอิง : แผนพัฒนาเมืองอัจฉริยะเชียงใหม่ 2568-2570 https://www.chiangmai.go.th/managing/public/M9/D24Feb2025132659.pdf
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น