แบงก์ชาติเหนือแถลงภาวะเศรษฐกิจไตรมาสแรกและคาดการณ์ไตรมาส 2 ปี'68 แนวโน้มยังดีแบบทรงๆ
แบงก์ชาติเหนือแถลงภาวะเศรษฐกิจไตรมาสแรกและคาดการณ์ไตรมาส 2 ปี'68 ชี้เศรษฐกิจโลกและสหรัฐฯ เป็นปัจจัยท้าทายหลักอาจส่งผลต่อการขยายตัวลดลง
เชียงใหม่ 6 พ.ค.- ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ นางพรวิภา
ตั้งเจริญมั่นคง ผู้อำนวยการอาวุโส ได้แถลงภาวะเศรษฐกิจและการเงินภาคเหนือ ไตรมาส 1 ปี 2568 โดยระบุว่า
ภาพรวมเศรษฐกิจภาคเหนือ ไตรมาส 1 ปี 2568 ขยายตัวชะลอลงจากไตรมาสก่อน ตามการท่องเที่ยวที่ขยายตัวชะลอลงจากกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ลดลง โดยเฉพาะชาวจีน ขณะที่นักท่องเที่ยวชาวไทยยังขยายตัวตามการจัดกิจกรรมในพื้นที่ การบริโภคขยายตัวได้เล็กน้อยตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ปรับดีขึ้น และภาวะหมอกควันที่เบาบางกว่าปีก่อน ทำให้การบริโภคที่เกี่ยวเนื่องกับภาคบริการและสินค้าอุปโภคบริโภคปรับดีขึ้น เช่นเดียวกับ รายได้ภาคเกษตรขยายตัวเล็กน้อยตามปริมาณผลผลิตที่เพิ่มขึ้นของอ้อยโรงงาน ข้าวนาปรัง และมันสำปะหลัง เนื่องจากสภาพอากาศเอื้ออำนวยมากกว่าปีก่อน การเบิกจ่ายภาครัฐดีต่อเนื่องทั้งรายจ่ายลงทุน และรายจ่ายประจำ การผลิตภาคอุตสาหกรรมขยายตัวเล็กน้อย ตามการเพิ่มขึ้นในหมวดเครื่องดื่มและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ขณะที่หมวดอาหารแปรรูปปรับลดลงจากการเร่งผลิตในช่วงก่อน อย่างไรก็ตาม การลงทุนภาคเอกชนทรงตัวตามการขยายตัวของการนำเข้าสินค้าทุนเพื่อการผลิต ขณะที่การลงทุนก่อสร้างยังหดตัวในกลุ่มที่อยู่อาศัย ภาคอสังหาริมทรัพย์หดตัวมากขึ้นหลังการเร่งซื้อที่อยู่อาศัยในช่วงก่อนหน้า ด้านการจ้างงานทรงตัว โดยการจ้างงานภาครัฐและภาคการผลิตเพิ่มขึ้น ขณะที่การจ้างงานภาคท่องเที่ยวชะลอลง อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาสก่อน ตามราคาหมวดพลังงานและเงินเฟ้อพื้นฐานที่เพิ่มขึ้น
สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจภาคเหนือไตรมาส 2 ปี 2568 คาดว่า ทรงตัวจากไตรมาสก่อน ภาคท่องเที่ยวคาดว่าขยายตัวเล็กน้อยจากมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวของภาครัฐและเอกชน รวมทั้ง การเบิกจ่ายภาครัฐที่มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องจากงบประมาณปี 2568 เบิกจ่ายได้ปกติ และงบผูกพันปี 2567 ทยอยส่งมอบ รายได้เกษตรคาดว่าขยายตัวต่อเนื่องตามปริมาณผลผลิตพืช โดยเฉพาะข้าวนาปรังที่เพิ่มขึ้น ส่วนด้านราคายังหดตัวต่อเนื่อง ด้านการผลิตภาคอุตสาหกรรมคาดว่าทรงตัวตามแรงกดดันด้านนโยบายการค้าของประเทศคู่ค้าต่อการผลิตและส่งออก เช่นเดียวกับการลงทุนภาคเอกชนคาดว่า ทรงตัวตามการลงทุนหมวดก่อสร้าง อย่างไรก็ตาม การบริโภคภาคเอกชนคาดว่าหดตัวเล็กน้อยตามกำลังซื้อที่เปราะบางมากขึ้น โดยความวิตกกังวลต่อเศรษฐกิจการค้าโลกโดยเฉพาะผลกระทบจากกำแพงภาษีของสหรัฐฯ ส่งผลให้การบริโภคภาคเอกชนหดตัวลง
ทั้งนี้มีปัจจัยท้าทายคือความผันผวนของเศรษฐกิจโลกทั้งนโยบายทางการค้าของสหรัฐฯ ตลาดการเงินโลกที่ยังผันผวน ที่ส่งผลเกี่ยวโยงกับการค้าโลก การส่งออกหดตัวตามการชะลอตัวในภาพรวมและกระทบต่อตัวเลขการเจริญเติบโตที่ลดลงจากคาดการณ์เดิม ซึ่งผลกระทบจากปัจจัยท้าทายของเศรษฐกิจโลกทำให้เศรษฐกิจมีแนวโน้มขยายตัวลดลงและมีความเสี่ยงด้านต่ำเพิ่มขึ้น โดยนโยบายการค้าโลกของประเทศเศรษฐกิจหลักในปัจจุบันยังคาดเดาได้ยาก ส่งผลต่อการประเนินผลกระทบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อในระยะต่อไป อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มลดลงต่ำกว่ากรอบเป้าหมาย ราคาพลังงานและมาตรการภาครัฐ เป็นสำคัญ ภาวะการเงินโดยรวมยังตึงตัวและต้องติดตาบความเสียง macro-financial feedback loop ที่อาจเพิ่มขึ้น ส่วนภัยการเงินทางออนไลน์ยังเป็นอุปสรรคสำคัญและความเสี่ยงของประชาชน.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น